วันพุธที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2552

สายธารแห่งความสุข โดย รินใจ "เปิดใจรับความสุข"



โลกมิอาจมืดมิดไปตลอด
ไม่นานก็ต้องสว่างไสว
ชีวิตก็เช่นเดียวกัน

เปิดใจรับความสุข

ช่างเขียนรูปผู้หนึ่งซึ่งไม่ปรารถนาจะเรียกตนเองว่า 'ศิลปิน' เล่าให้ฟังว่า ครั้งหนึ่งชีวิตเคยมืดมนที่สุด ถึงขนาดลงมือฆ่าตัวตายมาแล้ว

วันนั้น เขาขึ้นไปถึงดาดฟ้าชั้นที่ ๓๖ เตรียมจะโดดลงมา ขาข้างหนึ่งยื่นออกไปนอกระเบียงแล้ว แต่เมื่อชะเง้อมองลงไปข้างล่าง ก็เห็นคนสองคนกำลังคุยอยู่ตรงจุดที่เขาจะตกลงมาพอดี ตอนนั้นเองที่คำสอนของแม่ผุดขึ้นมาในใจว่า จะทำอะไรก็ตามอย่าให้คนอื่นเดือดร้อน เขาจึงชะงักเพราะกลัวว่า ถ้าโดดลงไปสองคนนั้นคงตายไปกับเขาด้วย อย่างไม่รู้อิโหน่อิเหน่

ช่วงที่เขาชะงักและเปลี่ยนจุดกระโดดนั้นเอง ก็เหลือบไปเห็นท้องฟ้าเบื้องหน้าใสสว่างกระจ่างตา ความคิดหนึ่งวูบขึ้นมาทันทีว่า ชีวิตก็มีด้านที่สดใสเหมือนกัน ไม่ใช่มืดมนไปเสียหมด ฉับพลันความรู้สึกของเขาก็โปร่งเบา ความกลัดกลุ้มจางไป ใช่แล้ว ชีวิตยังมีหวัง!

ชีวิตไม่ใช่มีแต่เรื่องทุกข์รุมเร้าใจ แม้ในยามระทมชวนสิ้นหวัง ก็ยังมีประกายแห่งความสุขให้เราชื่นชมได้ทุกเวลา เป็นแต่ว่าเราจะลืมตาหรือเปิดใจรับความสุขเหล่านั้นหรือไม่

ที่เรารู้สึกว่าชีวิตช่างมืดมนเสียเหลือเกินนั้น ใช่หรือไม่ว่าเป็นเพราะ เอาแต่จดจ่อครุ่นคิดแต่เรื่องเลวร้าย มองแต่ปัญหา จมอยู่กับความผิดหวังในอดีต และอุปสรรคข้างหน้า แต่ไม่ยอมมองสิ่งงดงามที่ปรากฏต่อหน้าต่อตา แถมยังปิดใจไม่ให้ความหวังส่องประกายเข้ามา

ยามกลัดกลุ้ม ลองแหงนมองท้องฟ้า เปิดใจให้ความสดใสจากเบื้องบนรินหลั่งเต็มใจเรา ยามเหนื่อยล้า แสงระยิบระยับของดวงดาราในคืนเดือนมืด อาจชุบชูใจเราให้มีความหวังกับชีวิตข้างหน้า ถึงจะอิดโรยเพราะร่ำไห้ จนไม่อยากรับรู้อะไรทั้งสิ้นแต่เมื่อเราตื่นขึ้น แสงเงินแสงทองสามารถขับไล่ความมืดมิดไปจากใจเราได้

พิธีกรหญิงผู้หนึ่งเล่าว่า เธอเลิกฆ่าตัวตาย เพราะขณะเดินไปที่ระเบียง ได้เห็นลำแสงแรกของดวงอาทิตย์โผล่พ้นขอบฟ้า เป็นสัญญาณบ่งบอกถึงการเริ่มต้นของวันใหม่

ใช่สินะ โลกมิอาจมืดมิดไปตลอด ไม่นานก็ต้องสว่างไสวใหม่ ชีวิตก็เช่นกัน สามารถเริ่มใหม่ได้เสมอ ไม่มีวันอับจนหนทาง

จะว่าไปแล้ว ความทุกข์และความสุขของชีวิต หาได้อยู่ถัดกันดังกลางคืนและกลางวันไม่ แท้ที่จริงความทุกข์และความสุขอยู่คู่เคียงกัน ในยามทุกข์ ความสุขก็อยู่รอบตัวเรา ใช่ว่าจะตามมาภายหลังก็หาไม่ เป็นแต่ว่าเราไปฉวยเอาเรื่องร้ายมาครองใจ ความสุขจึงแทรกเข้ามาไม่ได้ แต่หากเราวางเรื่องร้ายนั้นเสีย หรือน้อมเอาสิ่งดีงามมาใส่ใจ ความสุขก็จะบังเกิดขึ้นทันที

แม้กระทั่งในค่ายนรกนาซี ความสุขก็อยู่ไม่ไกลหากรู้จักหา หญิงผู้หนึ่งอยู่ใกล้ความตายทุกขณะ แต่ในยามนั้นเธอหาได้ทุรนทุรายไม่ สิ่งเดียวที่ให้ความหวังและกำลังใจแก่เธอ ก็คือต้นไม้ต้นหนึ่งซึ่งมีดอกตูมอยู่ ๒ ดอกใกล้หน้าต่าง เธอชอบคุยกับไม้ต้นนั้น และต้นไม้ก็บอกเธอว่า "ฉันอยู่นี่ ฉันอยู่นี่ ฉันคือชีวิตนิรันดร์"

ถึงที่สุดแล้ว สุขทุกข์นั้นอยู่ที่ใจ เราจะสุขหรือทุกข์อยู่ที่ว่าใจไปจดจ่อกับอะไร จะเปรียบไป ใจเราก็ไม่ต่างจากโทรทัศน์ร้อยช่อง บางช่องมีแต่เรื่องสยดสยอง บางช่องชวนให้หม่นหมองเคียดแค้น ชิงชัง แต่ก็มีบางช่องที่ดูแล้วเพลินใจ มีความหวังกับชีวิต ปัญหาอยู่ตรงที่เราจะเลือกดูช่องอะไร

คนเป็นอันมากดูแต่ช่องที่ชวนให้หม่นหมอง บีบคั้นใจแต่ทั้ง ๆ ที่รู้สึกแย่ ก็ไม่ยอมเปลี่ยนไปดูเรื่องที่เจริญตาเจริญใจ ไม่ต้องถึงขั้นมีพระมาเทศน์หน้าจอหรอก แค่เรื่องสัตว์โลกผู้น่ารักหรือท่องธรรมชาติก็ช่วยได้มากแล้ว

เราจดจ่อกับเรื่องทุกข์รันทดมานานแล้ว ไยไม่หันเหจิตใจไปรับรู้กับเรื่องงดงามชุบชูใจบ้าง ไม่ต้องไปไกลถึงหมู่เกาะอ่างทองหรือดอยอินทนนท์ก็ได้ เสียงนกร้องยามเช้า ดอกหญ้าที่ชูช่อจากรอยหินแตก ทารกที่แย้มยิ้มไร้เดียงสา ความสุขเหล่านี้มีให้เห็นมากมายตามรายทางมิใช่หรือ

ลองเปิดใจรับความสุขเหล่านี้ให้เต็มหัวใจเถิด ชีวิตเราจะเบาขึ้นมากเลย


ขอบคุณข้อมูลจาก www.khonnaruk.com ร่มไม้-ริมระเบียง

สายธารแห่งความสุข โดย รินใจ "ติดปีกให้ความฝัน"


ถ้าเอาคำของผู้เชี่ยวชาญเป็นประกาศิต
ย่อมไม่เกิดความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ขึ้นในโลก


ติดปีกให้ความฝัน


"มนุษยชาติไม่มีวันไปถึงดวงจันทร์ แม้นวิทยาศาสตร์ในอนาคตจะก้าวหน้าไปเพียงใดก็ตาม" ดร.ลี เดอ ฟอเรสต์ ผู้ใด้ชื่อว่าเป็นบิดาผู้หนึ่งของวงการวิทยุ เคยคาดการณ์อย่างมั่นอกมั่นใจ ที่น่าสนใจยิ่งกว่านั้น คำพยากรณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๐ แต่ ๒ ปีต่อมา นีล อาร์มสตรอง ก็ฝากรอยเท้าบนดวงจันทร์ต่อหน้าสายตาคนนับร้อยล้าน

ย้อนหลังไปเกือบ ๖๐ ปี ประธานบริษัทไอบีเอ็มก็เคยกล่าวว่า "ผมคิดว่าตลาดโลกคงต้องการคอมพิวเตอร์เพียง ๕ เครื่อง" แม้ล่วงเลยมาถึง พ.ศ. ๒๕๒๐ ผู้ก่อตั้งบริษัทดิจิตอลอีควิปเม้นท์ ซึ่งเป็นผู้นำด้านคอมพิวเตอร็ก็ยังฟันธง ว่า "ไม่มีเหตุผลที่ใคร ๆ อยากจะมีคอมพิวเตอร์ไว้ที่บ้าน" ไม่ถึง ๑๐ ปีต่อมาคอมพิวเตอร์ก็กลายเป็นอุปกรณ์ประจำบ้านของคนนับล้าน

อนาคตนั้นเป็นสิ่งหาความแน่นอนไม่ได้ แม้จะเป็นผู้เชี่ยวชาญ คำทำนายของเขามีโอกาสผิดได้ทั้งนั้น ลองไล่เลียงดูจะพบว่า เทคโนโลยีที่แพร่หลายทุกข์วันนี้ ล้วนถูกผู้เชี่ยวชาญปรามาสมาแล้วทั้งสิ้น

"วิทยุเป็นสิ่งไม่มีอนาคต" ลอร์ด เคลวิน นักฟิสิกส์ชาวสก็อตเคยพยากรณไว้เมื่อ พ.ศ. ๒๔๔๐ ส่วนโทรทัศน์นั้น ประธานบริษัททเวนตี้ เซนจูรี่ ฟ็อกซ์ ก็เคยดูแคลนไว้ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๔๘๙ ว่าจะติดตลาดได้ไม่เกิน ๖ เดือน "ไม่นานผู้คนจะเริ่มเบื่อกับการจ้องมองกล่องไม้อัดทุกคืน"

"เครื่องบินเป็นของเล่นที่น่าสนใจ แต่ไม่มีคุณค่าทางทหาร" นายพลฟ็อค นักยุทธศาสตร์ชาวฝรั่งเศสพูดเอาไว้เมื่อ พ.ศ. ๒๔๕๔ ก่อนหน้านั้นไม่ถึง ๑๐ ปี ประธานธนาคารแห่งหนึ่งก็เคยพูดเตือนนักลงทุนว่า อย่าไปตื่นเต้นกับรถยนต์ของเฮนรี่ ฟอร์ด "รถม้าจะยังมีอยู่ต่อไป รถยนต์เป็นของใหม่ที่คนเห่อกันไปเอง"

คำของผู้เชี่ยวชาญนั้น ถ้าถือเอาเป็นคำประกาศิตหรือคำพิพากษา โลกทุกวันนี้ย่อมไม่เกิดความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ แต่เป็นเพราะผู้คนเป็นอันมาก ไม่ยอมจำนนต่อคำทำนายทายทักของผู้เชี่ยวชาญ จึงสรรค์สร้างสิ่งใหม่ให้แก่ตนเองและโลกได้

สิ่งใหม่ตราบใดที่ยังไม่เกิด ก็เป็นแค่ความฝัน เพราะเหตุที่เป็นความฝัน จึงง่ายที่ใคร ๆ จะปฏิเสธว่าไม่มีวันเป็นจริงได้ และคนที่จะดูแคลนได้ง่ายที่สุดก็คือ ผู้เชี่ยวชาญ ประสบการณ์อันมากมายแม้จะทำให้เขาจัดเจน แต่ขณะเดียวกัน มันก็กลายเป็นกรงกักขังจินตนาการของเขาได้ง่ายมาก กักขังแม้กระทั่งว่าสิ่งใหม่บังเกิดขึ้นแล้ว เขาก็ยังมองไม่เห็นศักยภาพของมัน

มนุษย์นั้นมีศักยภาพอันไม่มีประมาณ และเหตุปัจจัยในโลกนี้ ก็มีมากมายเกินกว่าที่ผู้เชี่ยวชาญใด ๆ จะมองได้ทั่วถึง ปัจจุบันและอนาคตจึงเต็มไปด้วยโอกาสที่เป็นไปได้ทั้งนั้น

๑๐ ปีที่แล้วใครจะนึกว่าสหภาพโซเวียตจะล่มสลาย และกำแพงเบอร์ลินจะถล่มทลาย ในทำนองเดียวกัน ๔ ปีที่แล้วใครเลยจะนึกว่าเศรษฐกิจไทยจะพังพาบ และ Y๒K จะก่อความตื่นตระหนกและวิตกกังวลไปทั้งโลก

จินตนาการนั้นเหมือนหน่ออ่อนที่รอวันเติบโต ขณะนี้มันอาจกำลังงอกงามอยู่ในใจเราแล้วก็ได้ อย่าปล่อยให้มันถูกครอบด้วยประสบการณ์เก่า ๆ จนแคระแกร็น แต่ควรแปรให้กลายเป็นปุ๋ยอันโอชะ ที่บำรุงเลี้ยงจินตนาการให้งดงามจนบังเกิดผล

คุณอาจกำลังคิดสร้างสรรค์สิ่งใหม่ที่ยังไม่เคยทำมาก่อน สิ่งนั้นอาจยังไม่เคยเกิดขึ้นมาในโลกนี้เลยก็ได้ แต่ใช่หรือไม่ว่า คุณกำลังลังเลหรือถึงกับท้อถอย เพียงเพราะไม่มีใครเห็นด้วยว่าจะเป็นไปได้ หลายคนอาจส่ายหัวหรือไม่ก็หัวเราะเยาะ แต่ไม่ว่าเขาผู้นั้นจะเป็นใคร เป็นผู้รู้ ผู้ใหญ่ เจ้านาย หรือมิตรสหาย คำของเขาหาใช่ประกาศิตไม่ ถ้าเราเอาคำตัดสินของเขาเหล่านั้น มากำหนดชีวิตและการกระทำ เราจะต่างอะไรกับชาวบ้านที่เชื่อในพรหมลิขิต จนนั่งงอมืองอเท้า สุดแท้แต่ชะตากรรมจะพาไป

อย่าเพียงแต่ฝันแล้วปล่อยให้มันเจ่าจุกจนตายไป แต่จงติดปีกให้แก่ความฝัน เพื่อโบยยินจนถึงฝั่งแห่งความเป็นจริง ปีกทั้งสองของความฝันคืออะไร หากมิใช่ความเพียรพยายามและความตั้งใจมั่น จริงอยู่ว่าความฝันทุกชนิดไม่อาจถึงฝั่งได้หมด แต่ถ้าจะหยุดโบยบิน ก็ขอให้เพียรพยายามอย่างถึงที่สุด จนประจักษ์แก่ใจว่า เบื้องหน้าหามีฝั่งไม่ มิใช่ว่าหลงเชื่อคำทำนายหรือจำนนต่อคำปรามาส ทั้ง ๆ ที่อาจยังไม่ทันขยับปีกด้วยซ้ำ

อนาคตอาจมีคนมากมายคอยต้อนรับความฝันของเราอยู่ ฉะนั้นอย่าท้อถอย เหนื่อยนักก็พักก่อน แล้วบินต่อไปเถิด


ขอบคุณข้อมูลจาก www.khonnaruk.com ร่มไม้-ริมระเบียง

สายธารแห่งความสุข โดย รินใจ "สันติในเรือนใจ"


ยามสงัดแทนที่จิตจะสงบ
ความเจ็บแปลบกลับผุดขึ้นมาแล้วพรั่งพรู...
ซ้ำเติมจิตใจไม่ยั้ง


สันติในเรือนใจ


สงครามชีวิตไม่ได้มีอยู่แต่ในนวนิยายหรือละคร หากเป็นเรื่องจริงที่ยากจะหนีพ้นได้ ถ้าไม่เคยเจอมาก่อนก็ต้องเจอ ไม่วันนี้ก็พรุ่งนี้

สงครามชีวิตนั้นเกิดขึ้นได้ในหลายสมรภูมิ หนักเบาต่างกัน แต่ถ้าเทียบดูแล้ว คงจะเห็นพ้องกันว่า สงครามภายนอกนั้น ไม่หนักเท่าสงครามภายใน

สงครามภายนอนมีวันยุติ แต่สงครามภายในสิ บ่อยครั้งกลับยืดเยื้อเป็นแรมปี หรือนานชั่วชีวิตก็มี

เคยเจอไหม แม้เหตุการณ์ร้ายผ่านพ้นไปแล้ว แต่บาดแผลฝังลึกในจิตใจไม่ลืมเลือน ยามสงัด แทนที่จิตจะสงบความเจ็บแปลบกลับผุดขึ้นมา แล้วความโกรธ เกลียด ก็พรั่งพรูจู่โจม กระหน่ำซ้ำเติมจิตไม่ยั้ง สงครามภายนอกอาจพิชิตได้ด้วยกำลัง คำขู่ และคมปาก แต่สงครามภายในเล่า จะสยบด้วยอะไร

จริงอยู่ การตอบโต้อาจช่วยชำระความแค้นในใจ แต่ถ้าบาดแผลเกิดจากคนที่เรารักและนับถือล่ะ จิตจะสงบได้เพราะการแก้แค้นหรือ

หลายคนยังฝังใจที่ถูกพ่อแม่ลงโทษอย่างไม่เป็นธรรมในวัยเด็ก แม้เวลาผ่านไปนับสิบปี ก็ยังยิ้มให้กับพ่อแม่ได้ไม่สนิทใจ ถึงจะยินดีพาท่านไปเที่ยวทุกมุมโลก แต่กลับตะขิดตะขวงใจ ที่จะกอดท่านเหมือนเมื่อเด็ก ๆ ความเจ็บปวดผิดหวังจากอดีต ทำให้รักท่านได้ไม่เต็มหัวใจ และเป็นเพราะรักได้ไม่เต็มหัวใจ จึงรู้สึกผิดทั้งความเจ็บปวดผิดหวังและความรู้สึกผิด รุมกันทำร้ายจิตใจของตนปีแล้วปีเล่า

สงครามภายในไม่ได้เกิดจากคนอื่นอย่างเดียว บ่อยครั้งตนเองก็ร่วมลงไม้ลงมือด้วย

ชายคนหนึ่งเล่าว่า ตอนเด็กถูกพ่อตีเสมอมา บางครั้งก็ถูกตีอย่างรุนแรง จนเกิดความรู้สึกกลัวผู้ใหญ่ทุกคน เวลาอยู่ต่อหน้าผู้ใหญ่ จะทำตัวเรียบร้อย แต่ถ้าลับหลังผู้ใหญ่เมื่อไหร่ก็จะปล่อยตัวเต็มที่ แต่ถึงอย่างไร ลึก ๆ ก็ไม่มีความสุข เพราะความรู้สึกทั้งกลัวทั้งเกลียดพ่อคอยรังควานจิตใจ แม้กระทั่งในระหว่างทำสมาธิ หลายครั้งจะเกิดนิมิตเห็นมือข้างหนึ่งยื่นมาจะตีเขา จิตจะสะดุ้งทันที เพราะกลัวเจ็บ ต้องเลิกทำสมาธิกลางคัน

วันหนึ่ง ขณะทำสมาธิ เขาเกิดอยากรู้ขึ้นมาว่า ใครที่จะตีเขา ใจหนึ่งก็กลัวว่าจะเป็นมือพ่อ แต่อีกใจหนึ่งก็พร้อมจะพบความจริง จึงตั้งสติ ทำใจให้เข้มแข็ง ยอมถูกตี แล้วเขาก็พบว่าในนิมิตนั้น คนที่จะตีเขาก็คือพ่อของตนจริง ๆ แต่เมื่อเขาเพ่งมองต่อไป มืนนั้นก็เปลี่ยนจากท่าตีมาเป็นแบมือขอ ความรู้สึกบอกว่าพ่อกำลังขอความรักความเมตตา ชั่วขณะนั้นเอง เขารู้สึกสว่างโพลง เกิดความเข้าใจในตัวพ่ออย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

ประสบการณ์ครั้งนั้นทำให้เขาได้คิดว่า สาเหตุที่พ่อเป็นคนเจ้าอารมณ์ ชอบใช้ความรุนแรง เพราะพ่อขาดความรัก ขาดคนเข้าใจ เวลาทำงานก็ไม่มีเพื่อน จึงหงุดหงิดฉุนเฉียว เมื่อมาบ้านเห็นลูกทำผิดนิดหน่อย ก็คุมอารมณ์ไม่อยู่ ลงโทษลูกอย่างรุนแรง ลึก ๆ พ่อก็รู้ว่าลูกไม่รักตน จึงยิ่งทุกข์มากขึ้น

เมื่อเข้าใจพ่อ ก็สามารถให้อภัยพ่อได้ ทันทีที่ให้อภัย ความติดข้องในตัวพ่อก็เลือนหายไปพร้อมกับความเกลียดความกลัว บาดแผลในใจสมานได้สนิท ตั้งแต่นั้นมา เขารู้สึกเหมือนเป็นคนใหม่ จิตใจโปร่งเบา ทำอะไรได้สะดวก ไม่เพียงแต่รักพ่อได้สนิทใจเท่านั้น หากยังไม่กลัวผู้ใหญ่อีกต่อไปด้วย

สงครามภายในของชายผู้นั้นยุติลง มันหมดพิษสงก็เพราะการให้อภัย เมื่อให้อภัยแก่ผู้อื่นได้ จิตใจก็เป็นสุข การยื่นไมตรีให้แก่ผู้อื่น จึงเป็นการสร้างไมตรีให้กับตนเองไปพร้อมกัน เมื่อสร้างสันติกับผู้อื่น เราเองก็พลอยมีสันติภายในด้วย

พระพุทธองค์ตรัสว่า ผู้ให้ความสุขย่อมได้รับความสุข ความสุขนั้นมีหลายรูปลักษณ์ การให้อภัยและมีไมตรี คือชื่อหนึ่งของความสุข แต่การให้อภัยที่แท้จริงนั้นต้องเกิดขึ้นจากความเข้าใจ เมื่อประจักษ์แก่ใจว่า เขาเป็นอีกคนหนึ่งที่ต้องการความรัก รักสุขเกลียดทุกข์เหมือนเรา ก็ง่ายที่เราจะให้อภัยเขา

ความเข้าใจและการให้อภัย คือกุญแจดอกสำคัญ ที่เปิดใจเราให้พบกับสันติสุข ปราศจากกุญแจ ๒ ดอกนี้ ก็ยากที่สงครามภายในจะยุติได้ ไม่ว่าชีวิตภายนอกจะประสบความสำเร็จเพียงใด

ขอบคุณข้อมูลจาก www.khonnaruk.com ร่มไม้-ริมระเบียง

สายธารแห่งความสุข โดย รินใจ "ความจำกับความสุข"


มนุษย์มีพลังความจำอันน่ามหัศจรรย์
แต่จะมีประโยชน์อะไร
ถ้าจำแล้วกลับหาความสุขไม่ได้

ความจำกับความสุข

สมองของมนุษย์นับเป็นสิ่งอัศจรรย์อย่างหนึ่งในธรรมชาติ ความอัศจรรย์นั้นอยู่ตรงที่ความสามารถอันเหลือเชื่อของสมอง ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ชั้นนำยังอธิบายได้ไม่ตลอด ยังไม่ต้องพูดถึงการเลียนแบบ

ความน่าทึ่งอย่างหนึ่งของสมองมนุษย์ ได้แก่ความจำ มนุษย์เรามีความสามารถในการจำชนิดที่เราเองอาจนึกไม่ถึง เมื่อไม่กี่ปีมานี้ มีการทำลองสับไพ่และเปิดทีละใบติดต่อกันถึง ๓๕ สำรับ ปรากฏว่า มีชาวอังกฤษคนหนึ่ง สามารถจัดลำดับของไพ่ได้อย่างถูกต้องติดต่อกันถึง ๑,๕๖๒ ใบ ขณะที่บางคนสามารถจำคำศัพท์ต่างประเทศ ๒,๐๐๐ คำได้ภายใน ๑ วัน

ที่น่าทึ่งกว่านั้นเห็นจะได้แก่การจำทศนิยมของ ไพ (pi) คนที่ยังไม่ลืมคณิตศาสตร์ชั้นประถมคงจำได้ว่า ไพ หรือ หมายถึงความยาวของเส้นรอบวงหารด้วยเส้นผ่านศูนย์กลาง = ๒๒/๗ หรือ ๓.๑๒๘…ทศนิยมที่อยู่หลังเลข ๓ นั้นเป็นทศนิยมไม่รู้จบที่ยิ่งกว่านั้นก็คือ ทศนิยมดังกล่าวไม่มีแบบแผน หรือการเรียงลำดับที่ซ้ำกันเลย (ไม่เหมือน ๑๐/๓ ซึ่งเท่ากับ ๓.๓๓๓๓…) ด้วยเหตุนี้ ในบางวงการจึงมักนิยมวัดความจำของคนด้วยการจำเลขทศนิยมของไพ

เมื่อ ๘ ปีที่แล้ว มีชาวอังกฤษคนหนึ่ง สามารถจำทศนิยมของไพได้อย่างถูกต้อง ถึง ๒๐,๐๑๓ ตำแหน่ง แต่นั่นก็ยังห่างไกลจากความจำของชาวอินเดียอีกคนหนึ่ง ซึ่งจำลำดับทศนิยมของไพได้ถึง ๓๑,๘๑๑ตำแหน่ง โดยไม่ผิดเพี้ยนเลย

กล่าวกันว่า ในแอฟริกามีคนที่สามารถจดจำชื่อบรรพบุรุษในเผ่าของตน สามารถท่องให้ฟังได้หลายชั่วโมงติดต่อกัน ส่วนในพม่า มีพระหลายรูปที่สามารถสืบต่อประเพณีจำพระไตรปิฎกได้ทั้ง ๔๕ เล่ม



ตัวอย่างที่ยกมานี้บ่งชี้ว่า สมองของมนุษย์ มีความสามารถในการจดจำ ได้อย่างมากมายจนนึกไม่ถึง การที่เราจำหมายเลขโทรศัพท์บ้านเพื่อนไม่ได้นั้น มิได้หมายคำวามว่าสมองของเราขี้เลื่อย แต่เป็นเพราะ เรายังใช้ประโยชน์จากสมองของเรา ไม่เต็มที่ต่างหาก

กล่าวกันว่า ทุกวันนี้คนทั่วไปใช้สมองเพียง ๑ ใน ๑๐๐ หรือ ๑ ใน ๑,๐๐๐ ของศักยภาพที่มีเท่านั้น ด้วยเหตุนี้จึงมีการคิดค้นวิธีฝีกสมองกันอย่างมากมาย รวมทั้งสอนวิธีการจำให้ได้เยอะ ๆ จนถึงกับแข่งขันการจำเพื่อโปรโมตวิธีการดังกล่าว

การเพิ่มพูนสมรรถนะของสมองนั้นเป็นของดีแน่ แต่การจะใช้ประโยชน์จากสมองให้เต็มที่นั้น น่าสงสัยว่าจำเป็นแค่ไหน แม้ว่าสมองของเราสามารถจะจำหมายเลขโทรศัพท์ได้หลายพันหมายเลข แต่ในชีวิตประจำวันของเรา เพียงจำหมายเลขโทรศัพท์ได้ ๑๐๐ หมายเลขก็นับว่าเกินพอแล้ว แม้การรู้ศัพท์ต่างประเทศนับพัน ๆ ศัพท์จะมีประโยชน์ แต่ก็ไม่จำเป็นต้องท่องให้ได้ภายใน ๑ วัน ชีวิตมิได้เร่งรีบถึงเพียงนั้น

ใคร ๆ ก็อยากจะจำอะไรให้ได้มาก ๆ จนบางทีลืมไปว่า การลืมก็มีประโยชน์เหมือนกัน ไม่ค่อยมีคนชอบการลืมเท่าไหร่ คนที่จดจำความไม่ดีของคนอื่นเอาไว้เยอะ ๆ มักหาความสุขไม่ค่อยได้ เผลอ ๆ จะกลายเป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้นไป เรื่องที่ทำให้เจ็บช้ำน้ำใจนั้น ลืมเสียบ้างก็ดี ถ้าจะจำก็จำบทเรียนหรือบทสรุปสำหรับอนาคตดีกว่า

ลองคิดเล่น ๆ ว่า หากเราสามารถจดจำความฝันได้แม่นยำ ชีวิตจะวุ่นวายเพียงใด เพราะแยกไม่ออกว่า อันไหนเรื่องจริงอันไหนเป็นความฝัน สมมุติเกิดฝันว่า เพื่อนสาวมาจุมพิตเรา พอเจอเธอในที่ทำงานวันรุ่งขึ้น ก็อาจยื่นหน้าทำตาหวานใส่เธอ เพราะเข้าใจว่าเป็นความจริง อะไรจะเกิดขึ้นต่อจากนั้นก็คงนึกออก โชคดีที่ธรรมชาติไม่ยอมให้เราจดจำความฝันได้มากนัก

จริง ๆ แล้ว ลืมอะไรก็ไม่สำคัญเท่ากับลืมตัว ลืมตัวในที่นี้ไม่ได้หมายถึงลืมกำพืดรากเหง้าของตนเองเท่านั้น แต่ยังหมายถึงลืมตัวเพราะบันดาลโทสะหรือตัณหาพาไป จนทำให้ชีวิตถลำไปในทางเลวร้าย ครอบครัวแตกสลาย ธุรกิจล้มละลายไปมากต่อมาก ก็เพราะหน้ามืดจนลืมตัวไปมิใช่หรือ

ถึงจะจดจำอะไรต่ออะไรมากมาย แต่ถ้าลืมตัวเสียอย่างเดียว ชีวิตก็อับปางได้ ที่แย่ก็คือข้อมูลตัวเลขทั้งหลายนั้น ไม่ได้เป็นหลักประกันว่าเราจะไม่ลืมตัว เพราะฉะนั้น ถึงจะจำเก่งแต่ก็อย่าประมาท

พูดง่าย ๆ ความจำกับความสุขนั้นเป็นละเรื่องกัน

ขอบคุณข้อมูลจาก www.khonnaruk.com ร่มไม้-ริมระเบียง

สายธารแห่งความสุข โดย รินใจ "หลังบ้านมีสายธาร"


หลายคนพบว่า
บ้านที่เคยเป็นเพียงที่ซุกหัวนอน ...
กลายเป็นแหล่งแห่งความสุข

หลังบ้านมีธารใส

ครั้งหนึ่งนานมาแล้ว สมัยคุณทวดยังเด็ก…
มีชาวไร่ในแอฟริกาใต้คนหนึ่ง หลังจากทำมาหากินอยู่บนที่ดินอันแห้งแล้ง เต็มไปด้วยกรวดด้วยหินมาเป็นเวลาหลายปี วันดีคืนดีก็ได้ยินว่า มีคนพบเพชรไปทั่วประเทศ เขาจึงขายที่ แล้วออกเดินทางเสาะหาเพชร

เขาค้นหาอยู่หลายปีแต่ก็ไม่เพชรสักเม็ด ในที่สุดก็สิ้นเนื้อประดาตัว และตายอย่างคนอนาถา

อยู่มาวันหนึ่ง ชายคนที่ซื้อที่ต่อจากชาวไร่ผู้นั้น สังเกตเห็นหินลักษณะผิดธรรมดา ๒-๓ ก้อนในที่ผืนนั้น ด้วยความสงสัยเขาจึงนำมันไปล้างน้ำ แล้วก็ลองขัดดู

ปรากฏว่า ที่ผืนนั้นกลายเป็นเหมืองเพชรคิมเบอร์ลี่ อันเลื่องลือไปทั่วโลก มาจนทุกวันนี้

อะไรทำให้ชาวไร่ผู้น่าสงสารนั้นพลาดโอกาสที่จะเป็นเศรษฐีเงินล้าน เราอาจโทษให้เป็นเรื่องของโชคชะตาที่แอบมาเล่นตลกร้ายกับเขา แต่ถ้าสรุปแบบนี้ก็จะไม่เป็นธรรมกับโชคชะตานัก เพราะโชคนั้นอุตส่าห์มาช่วยเขา ถึงขนาดรออยู่ใต้เท้าแล้ว แต่เขากลับมองไม่เห็น

ทำไมถึงมองไม่เห็น ก็เพราะจิตใจของเขาหมกมุ่นอยู่กับดินแดนอันไกลโพ้น จนลืมนึกถึงที่ที่ตนเองยืนอยู่ เขาฝันถึงเพชรตรงโน้นตรงนั้น แต่กลับไม่สนใจใยดีกับที่ของตัว ซ้ำกลับดูถูกดูแคลนจนขายทิ้งไปเลย

บ่อยครั้งที่เราก็ไม่ต่างจากชาวไร่ผู้นั้น เราทุกคนเปรียบดังผู้แสวงโชค โชคที่ว่าคือความสุขความเต็มอิ่มในชีวิต แต่เรากลับไปนึกว่ามันอยู่โน่น… เราต่างพากันไขว่คว้าหาความสุขตามศูนย์การค้า ตลาดหุ้น ผับ หรือเมืองนอก แต่เรากลับนึกไม่ถึงว่าโชคหรือความสุขนั้นรอเราอยู่แล้ว ตรงนี้ ตรงที่ที่เรานั่งอยู่หรือมีอยู่แล้วในครอบครอง

ของดีนั้นมักแอบอยู่ตรงมุมที่เราไม่นึกว่าจะมี ตรงที่ที่ขี้เหร่ ไม่น่าดู หรือเห็นซ้ำซากจำเจนั่นแหละ ลองสังเกตดูให้ดีๆ ทำใจให้สบาย เราอาจเห็นประพิมพ์ประพายของโชค ส่องประกายจากมุมที่แสนธรรมดานั้น

หลายคนพบว่า บ้านที่ตัวเองเคยถือเป็นเพียงที่ซุกหัวนอนเท่านั้น เป็นแหล่งแห่งความสุขอย่างที่ไม่คาดคิดมาก่อน สมัยเศรษฐกิจเฟื่องฟู ก็ไปนึกว่าความสุขอยู่นอกบ้าน แต่เมื่อเงินหดหาย ไปไหนไม่สะดวกเหมือนก่อน ถึงรู้ว่ารอบโต๊ะกินข้าวในครัว หรือสนามหญ้าหน้าบ้าน ก็มีความสุขให้ตนชื่นชมสัมผัส ได้อย่างเหลือเฟือ เพียงแต่รู้จักชวนลูกหลานมาทำอาหารกินกันวันหยุด หรือเลี้ยงสังสรรค์เบาๆ ที่บ้าน แทนที่จะไปฉลองกันตามภัตตาคารหรูอย่างแต่ก่อน แต่ก็อย่าเพิ่งเพลินใจไปกับหน้าบ้านหรือในบ้านเท่านั้น อีกจุดหนึ่งที่สามารถยังความอิ่มเอมเปรมปรีดิ์ให้แก่เราได้ก็คือหลังบ้าน

หลังบ้านมักเป็นบริเวณที่ขี้เหร่ที่สุดของบ้าน ไม่ค่อยมีใครอยากให้แขกเห็นหลังบ้านของตัว เพราะมักเป็นที่เก็บของเหลือใช้ หนักเข้ากลายเป็นกองขยะไปเลยก็มี แม้แต่เจ้าของบ้าน ยังไม่อยากเยี่ยมหน้าออกไปเห็นเลย

ไม่ฉลาดเลยถ้าเรารังเกียจหลังบ้าน จำบทเรียนจากชาวไร่ผู้ดูแคลนที่ดินของตัวได้ไหม คนเป็นอันมากพบว่าหลังบ้านกลายเป็นวิมานน้อยๆ เมื่อแปรสภาพหลังบ้านให้กลายเป็นสวนผักย่อมๆ เป็นที่ชุบชูใจในยามเย็น เมื่อได้พรวนดินและประคบประหงมชีวิตน้อยๆ ให้เกิดขึ้น

จำได้ว่าตอนเด็กๆ หลังบ้านช่างรกไปด้วยหญ้าและขยะ แถมติดกับท่อน้ำครำอีกด้วย แต่เมื่อพวกเราช่วยกันถางหญ้า จัดแต่งต้นไม้ และขนปฏิกูลไปทิ้ง พื้นที่น้อยๆ ก็กลายเป็นที่สังสรรค์ในยามค่ำคืนได้อย่างวิเศษ แม้ท่อน้ำครำยังอยู่ แต่ความเพลิดเพลินบันเทิงใจบวกกับจินตนาการของเรา ก็ทำให้มันไม่ต่างอะไรจากสำธารใสในป่าลึก

ปฏิกูลและซากเน่าของพืชสัตว์ สามารถแปรสภาพเป็นดอกไม้งาม และผลไม้หวานอร่อยฉันใด มุมที่อัปลักษณ์อัปภาคย์ก็สามารถกลายเป็นสรวงสวรรค์ฉันนั้น

เชื่อหรือไม่ว่า หลังบ้านของทุกบ้านล้วนมีลำธารใสให้ชื่นชม เพียงแต่เราจะเห็นมันหรือเปล่าเท่านั้น

หนังสือเล่มนี้ จะเป็นเสมือนลำธารใส ให้แก่ผู้อ่านทุกคน เพื่อจะได้มีกำลังใจเสาะหา 'เพชร' ในตัวเอง

ขอบคุณข้อมูลจาก www.khonnaruk.com ร่มไม้-ริมระเบียง

ลมฤดูใบไม้ร่วง ของ หลีไป๋

THE AUTUMN WIND
POEMS OF LI PO
สมภาร พรมทา แปลเรียบเรียง


ลมฤดูใบไม้ร่วงแผ่วพัด
ในค่ำคืนที่อ้างว้างเปลี่ยวเหงา
จันทร์นวลทอแสง
สาดอาบใบพฤกษา
ที่ถลาร่อนลงดิน
กาเดียวดาย
เกาะคอนไม้หลับใหล
นานครั้งจึงจะขยับกาย
ยามลมกระพือพัด

คืนนี้หนาวเหน็บ
ฉันนอนไม่หลับ
จิตใจครุ่นคะนึง
ถึงใครคนหนึ่ง
ที่จากมา ณ แดนไกล
อีกนานไหม
ที่เราสองจะได้พบกัน
หรือว่าฉันต้องจมอยู่กับค่ำคืนอันโหดร้าย
เช่นนี้ชั่วนิรันดร

กลอนภาษาอังกฤษ

Not strange if you see some of them have allday long with quarrel.
Not strange if you see some of them always sweet…
And not strange if some of them are cold and distant to each other.
And it’s normal if you see some of them have too much different love,
seeming the sky and the land.

ไม่แปลกที่บางคู่อาจทะเลาะกันทั้งวัน
ไม่แปลกที่บางคู่อาจหวานให้แก่กันได้ทั้งวัน
และไม่แปลกที่บางคู่ต่างเฉยชาต่อกัน
และก็คงไม่แปลกเลยที่บางคู่อาจต่างกันราวฟ้ากับดิน


You're not wrong to love him.
And, it’s not also his wrong, if he doesn't love you back.
By the way, you're not wrong if you don't love him.
And not his wrong if he loves you.
Forbid heart from falling in love is hard to do.
But... It's not comparable with Forbid heart to forget love, because it's so hard to do.

คุณไม่ผิดที่ไปรักเขาคนนั้น
และเขาเองก็คงไม่ผิดที่ไม่ได้รักคุณ
ในทางตรงข้าม คุณไม่ผิดที่ไม่ได้รักเขาคนนั้น
และเขาก็ไม่ผิดที่มารักคุณเช่นกัน
การห้ามใจไม่ให้รักนั้นยากนัก
แต่คงเทียบไม่ได้กับการห้ามใจให้ลืมรักเพราะย่อมยากกว่า

คำสัญญาของฟ้าสีคราม

ใต้ฟ้าสีคราม
ยังมีแสง ตะวันงาม ในยามเช้า
เปรียบเป็นแสงทอง ส่องใจเรา
จะไม่รู้สึกเหงา หากเรา ยังเชื่อใจ
- - - -
ใต้ฟ้าสีคราม
ยังมีแสงจันทร์งาม ยามหลังใหล
ค่ำคืน มืดสนิท สักเพียงใด
เธอยังส่องสว่าง ในหัวใจ เสมอมา
- - - -
ใต้ฟ้าสีคราม
มองเห็น สายรุ้งงาม อยู่เบื้องหน้า
อธิษฐาน ผ่านสายรุ้ง จงอย่าลืม คำสัญญา
โปรดส่งเธอกลับคืนมา.....
ลบความเหว่ว้า...จากใจฉันที

กลอนภาษาอังกฤษ ความหวัง

Behind the clouds and mist of cold
The warming light of sun doth show
Within the depth of darkling night
The stars yet shining out their light.

Will the time come to light my days
And shed those pain and lone away
Will someone come and hold me near
I long for thee to stop my tears

Will there be sun behind my clouds
Or will my star ever be found
I long, I wish, o my heart cries
For someone I could call as mine.

--------------------------------------

เบื้องหลังหมอกมัวเหนือฟ้าหม่น
แสงอ่อนโยนของตะวันยังเฉิดฉาย
ราตรีมืดไม่ไร้ดาวพราวพราย
จะมีสักวันไหมได้พบเธอ

คนที่จะจุดประกายปลายฟ้า
อบอุราให้อุ่นไอรักเสมอ
จะมีไหมวันนั้นวันที่เจอ
หรือต้องเพ้อเพียงฝันนิรันดร

บทกวีจาก Greeting of Love

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ความรักดั่งดวงดาว
บางคราวก็มองเห็น
บางครั้งก็หลบเร้น
อาจไม่เห็นด้วยดวงตา
ความรักดั่งดวงดาว
อยู่คู่หาวห้วงเวหา
สัมผัสได้ทุกเวลา
ใช่ด้วยตาแต่ด้วยใจ

Love is like a star.
It sometimes can be seen.
It sometimes becomes invisible
even with widely opened eyes.
Love is like a star.
It lives in a wide sky.
It can be seen all the time
not by eyes but by heart.

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ดวงจันทร์ขึ้นตอนกลางคืน
แล้วตกตอนกลางวัน
ความรักขึ้นได้ทั้งคืนและวัน
และตกได้ทั้งวันทั้งคืน
ตอนนี้ความรักฉันตก
ตกลง "รักเธอ"

The moon rises at night
and falls down at day time.
Love can rise up both at night and day time.
It can fall down both at night and day time
somehow.....
Now my heart is falling.
It's "falling in love with you".

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

เติมใจให้เต็มฝัน
เติมวันให้เต็มวาด
เติมทรายให้เต็มหาด
เติมดาวให้เต็มคืน
เติมยิ้มให้เต็มแย้ม
เติมแก้มให้เต็มชื่น
เติมรักให้เต็มกลืน
เติมใจให้เธอเต็ม

Let's fill our heart with living dreams.
Let's fill our days with creation.
Let's fill our beach with fine sand.
Let's fill our night with night flowers.
Let's fill our face with sweet smile.
Let's fill our cheeks with joy.
Let's fill our love with love.
Let's fill our hearts with you and me.

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ไม่ได้รักเธอเท่าฟ้า
แต่รักเธอเท่าฝ่ามือ
ความหมายของฉันคือ
ฉันรักเธอเท่ามือกำ

My love is as wide as the sky.
It's as wide as my hand.
Do you know what I mean?
My love is as big as my fist-the size of my heart.

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ในโลกนี้มีอยู่สองปัญหา
คือปัญหาที่ค้างคากับปัญหาที่แก้ได้
เธอก็มี ฉันก็มี เหมือนใครใคร
ไม่มีใคร ไม่เคย ไม่มีปัญหา
ค่อยค่อยคิด ค่อยค่อยคลาย ค่อยค่อยแก้
เว้นไว้แต่ปัญหาที่แก้ไม่ได้
ปล่อยเวลาทำหน้าที่ช่วยคลี่คลาย
เพราะปัญหาคือสิ่งท้าทายหัวใจคน
ถึงเสียใจขอแค่อย่าสูยเสียฝัน
รุ้งสายนั้นรอเราอยู่หลังหมู่ฝน
แค่ลืมตาแล้วหายใจยิ้มให้ตน
เธอจะค้นเธอจะพบกำลังใจ

There are only two kinds of problems.
One is the irresovable and one is the resovable.
You have both of them as I and the others have.
No one has never has problem.
Be calm down and try to find resolution.
Don't waste your time with
the irresovable one.
Let time cure it.
All problems are the challenges of your heart.
Although you have your heart become
weakened,don't leave your dream.
That's because the rainbow always waits for us
after the hard rain.
Just open your eyes, take deep breath,
and smile to yourself;
You'll then find your own power.

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

รักทำให้ใจเป็นสุข
รักทำให้ใจเป็นทุกข์
รักใช่เพียงร่วมเรียงสุข
รักต้องอยู่คู่เคียงทุกข์

Love makes heart happy.
Love also makes heart get in blue sometimes.
Love is not only the representative of happiness.
But also the representative of sadness.

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ให้ความรักเป็นของขวัญ
ให้ความฝันเป็นจุดหมาย
ให้ความจริงเป็นสิ่งท้าทาย
ให้กำลังใจเป็นความผูกพัน
ให้ความผิดหวังเป็นพลังสู้
ให้ความไม่รู้เป็นครูปลุกปั้น
ให้ชีวิตเป็นดั่งตะวัน
ขึ้นลงสลับกันแต่คงมั่น้สมอไป

Please keep love as your precious gift.
Please keep dream as your destination.
Please keep truth as your challenging adventure.
Please keep my cheering heart as your good care.
Please keep all disappointment as your fighting power.
PLease keep all hidden knowledge as your teacher.
Please let your life be as the sun who rises and falls but lives for good.

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

รักเกิดจากความเข้าใจในวันนั้น
รักเกิดจากความผูกพันในวันนี้
รักเกิดจากเยื่อใยและไมตรี
ขณะที่เธอกับฉันประสานใจ
เราเจอกันอาจเพราะพรหมลิขิต
แต่ชีวิตที่เหลือเราลิขิตเองได้
รักจะร้างหรือยั่งยืนใช่ขึ้นอยู่กับดาวดวงใด
เธอกับฉันใช่ไหมที่ให้กำเนิดความรัก

Love comes from the gifts that we share on special day.
Love was born our standing on the day we met.
Love grows up with our sweet relation of today.
Love grows up with our hearts together.
Destiny brought us the chance to meet.
The rest of our life is in our hands.
That love will last long or not doesn't depend on zodiac.
You and me are the ones who give birth to love.

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

รักจะพาเราโบยบิน
ไปสูดกลิ่นดอกเมฆา
แสงจันทร์กระซิบมา
คนมีค่าแค่ธุลี
ฉันจึงตะโกนร้อง
ฟ้องเวิ้งฟ้าทั้งเหนือใต้
ฉันคือผู้ยิ่งใหญ่
ฉันยิ่งใหญ่ที่ได้รักเธอ

Love will fly us away
to touch the fragrance of clouds
while the moon light keeps whispering
" A man is just an atom of dirt in the universe ".
I shout proudly to the sky
from the North to the South that,
even an atom of dirt, I'm the great.
I'm the great that I love you.

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

เข้าใจนิยามรักล้านความหมาย
จากการอ่านหนังสือร้อยเล่ม
จะมีค่าอะไร
หากหัวใจไม่เคยรักใครซักคน

Knowing million of love definitions
from reading a hundred books
is worthless
if your heart never loves.

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

บางครั้ง
ความรักคล้ายการปรากฎตัวของผีเสื้อ
สดสวย ร่าเริง ซุกซน
ก่อนจะโบยบินผ่านพ้นไป

Sometimes,
love is like the appearance of a butterfly.
It looks beautiful, joyful, and naughty
but it then flies away.

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

อากาศครื้ม
อารมณ์เคลิ้ม
รักคงเดิม
ไม่เพิ่มไม่ลด

The air is gloomy.
My emotion is in a rapture
but my love stands still;

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ณ ที่ดวงดาวพราวฟ้า
ณ ที่ดวงตาพราวฝัน
ณ ที่ดวงใจผูกพัน
ณ ที่รักนิรันดร์ผสานใย
ณ ที่ความเปลี่ยนแปลงไม่อาจเปลี่ยน
ณ ที่เปลวเทียนไม่อาจไหว
ณ ที่คนสองคนพึงพอใจ
ณ ที่นั้นฉันจะไปกับเธอ
ไปดูแลดวงดาวให้พราวฟ้า
ไปดูแลควงตาให้พราวฝัน
ไปดูแลดวงใจให้ผูกพัน
ไปดูแลรักนิรันดร์ให้มั่นคง

At the place where stars shine on the sky,
at the place where eyes shine the streams of dreams,
at the place where two hearts relate,
at the place where eternal love grows up,
at the place where nothing changes,
at the place where the candle flame stands still,
at the place where two lovers spend good time together,
I wish to live with you.
There, we will take care of shining stars.
There, we will take care of good dreams.
There, we will take care of our hearts.
There, we will take care of eternal love.

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ความรักมาเป็นคู่
มาเป็นหมู่ไม่ใช่รัก
คู่ใครใจประจักษ์
อาจทายทักแล้วจากไป
ความรักต้องเลือกคู่
เสี่ยงทายดูใช่หรือไม่
คืนวันร่วมกันใช้
ใช่-ไม่ใช่ใจเรารู้

Love comes in two.
More than two are not love.
Our heart knows who is our soul mate.
The fake love will go away after gretting.
Real love comes with soul mate.
It's like an adventure to find the real one.
After spending day and night,
our heart will decide.

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ความรักเหมือนวิหค
ผกผินบินเร่ร่อน
บางครั้งไร้รังนอน
บางตอนนอนเดียวดาย
ความรักเหมือนวิหค
บินโบกหาความหมาย
หาคู่อยู่เคียงกาย
กลางพระพายชายโชยเย็น

ความรักเหมือนวิหค
บินโบกเหมือนเล่นเล่น
ความจริงสิ่งที่เป็น
สังเวยเซ่นด้วยดวงใจ
ความรักเหมือนวิหค
บินโบกหวั่นและไหว
ตามหาเจ้าหัวใจ
ที่หล่นหายกลางสายลม

Love is like a bird.
It keeps flying.
Sometimes, it's homeless.
Sometimes, it sleeps alone.
Love is like a bird.
It keeps flyingto find the meaning of life.
It's seeking the real lover
in the cold wind.
Love is like a bird.
It seems aimlessin flying.
The truth is not funny.
It must be sacrificed with heart.
Love is like a bird.
It keeps flying apprehensively,
to find its heart
that gets lost in the wind.

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

คัดลอกจาก แหล่งความรู้ (Knowledge zone)

กลอนภาษาอังกฤษ

*******************************************************

Some dream of worthy accomplishments, while others stay awake and do them.

บางคนฝันที่จะประสบความสำเร็จอย่างสวยหรู ในขณะที่บางคนกำลังลงมือกระทำ

*******************************************************

The determined man finds the way, the other finds an excuse or alibi.

ผู้ที่แน่วแน่และมุ่งมั่นจะหาหนทางแก้ปัญหา ในขณะที่คนอื่นจะหาหนทางแก้ตัว

*******************************************************

If you always do what interests you, then at least one person is pleased.

ถ้าคุณลงมือทำในสิ่งที่คุณสนใจอยู่เสมอ อย่างน้อยจะมีคนคนหนึ่งที่พอใจ

*******************************************************

True love is like a jigsaw puzzle. The pieces will find themselves
when they are right for each other.

ความรักที่แท้จริงก็เหมือนกับเกมจิ๊กซอร์ ชิ้นส่วนทั้งหมดจะสามารถค้นพบตัวเองได้ ก็ต่อเมื่อแต่ละชิ้นสามารถหาชิ้นที่"ใช่"สำหรับตัวมันเอง

*******************************************************

You get the best out of others when you give the best of yourself.

คุณจะได้รับสิ่งที่ดีที่สุดของคนอื่น เมื่อคุณได้ให้สิ่งที่ดีที่สุดของคุณไป

*******************************************************

The secret of success in life is to be ready for your opportunity when it comes.

ความลับของความสำเร็จคือเตรียมตัวให้พร้อมอยู่เสมอสำหรับโอกาสที่มาถึง

*******************************************************

The best and most beautiful things cannot be seen or even touched, they must be felt with the heart.

สิ่งที่สวยงามที่สุดมิอาจสัมผัสได้โดยสัมผัสทางกาย ทว่าต้องรับรู้ผ่านหัวใจ

*******************************************************

The only thing in life achieved without effort is failure.

มีเพียงสิ่งเดียวในชีวิตที่จะสามารถพิชิตได้โดยไม่ต้องใช้ความพยายามมากมายคือความล้มเหลว

*******************************************************

To love is nothing. To be loved is something.
To love and be loved is everything!!

การได้รักเป็นเพียงความว่างเปล่า การถูกรักเป็นเพียงแค่บางสิ่งบางอย่าง
ส่วนการได้รักและการถูกรัก นั้นเป็นทุกอย่าง

*******************************************************

คัดลอกจาก ต่อตระกูล webblog

กลอนภาษาอังกฤษที่มีความหมายดีๆ

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

God give 2 eye 2 ear two arm 2 leg but he not give 2 heart purpose look for another heart
พระเจ้าให้2ตา2หู2แขน2ขาแต่ไม่ให้2หัวใจจุดประสงค์เพื่อให้เราค้นหาอีกหัวใจหนึ่งนั่นเอง

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

Will is for men to strive
Success is up to Luck and Fate

ความพยายามเป็นของมนุษย์
ความสำเร็จเป็นเรื่องของ ฟ้าดินและโชคชะตา

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

To love is nothing. To be loved is something.
To love and be loved is everything!!

การได้รักเป็นเพียงความว่างเปล่า การถูกรักเป็นเพียงแค่บางสิ่งบางอย่าง
ส่วนการได้รักและการถูกรัก นั้นเป็นทุกอย่าง

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ฝูงชนกำเนิดคล้าย คลึงกัน
ใหญ่ย่อมเพศผิวพรรณ แผกบ้าง
ความรู้อาจเรียนทัน กันหมด
เว้นแต่ชั่วดีกระด้าง ห่อนแก้ ฤาไหว

Born men are we all and one
Brown black by the sun culture
Knowledge can be done alike
Only the heart differs from man to man
ที่มา:
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่หก

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

Time may change my life but my heart remains the same to you
Time may change your heart but my love for you never changes.

เวลาอาจจะเปลี่ยนชีวิตฉัน แต่หัวใจของฉันที่มีต่อเธอยังคงเหมือนเดิม
เวลาอาจจะเปลี่ยนหัวใจเธอ แต่ความรักของฉันจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

Friendship beyond Frontier = มิตรภาพไร้พรมแดน

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

If all my friends were to jump off a bridge,
I wouldn't jump with them,
I'd be at the bottom to catch them.

ทุกคนได้ยินสิ่งที่ท่านพูด
เพื่อนทั่วๆไปจะรับฟังในสิ่งที่ท่านพูด
แต่เพื่อนแท้จะรับฟังความรู้สึกที่ท่านไม่เอ่ยมันออกมา

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

A friend is someone we turn to
when our spirits need a lift.
A friend is someone we treasure
for our friendship is a gift.
A friend is someone who fills our lives
with beauty, joy, and grace.
And makes the whole world we live in
a better and happier place.

เพื่อนที่คือคนที่เราหันหา
ยามที่เราหดหู่
เพื่อนคือคนที่เรารู้ค่า
เพราะมิตรภาพนั้นคือของขวัญ
เพื่อนคือคนที่เติมเต็มชีวิต
ด้วนความงาม สุข และสง่า
และทำให้โลกที่เราอยู่นี้
มีค่าและสุขยิ่งกว่า

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

โศลกเศร้าแห่งความรัก (Trist cântec de dragoste) โดย นิกิต้า สเตอเนสคู

ขับกล่อมหัวใจด้วยบทกวี #1
siminiciuc


...เพราะความฝัน ความรัก และศรัทธา คือแสงสว่างที่ชี้นำทางให้ชีวิตคนเราได้พบเจอจุดมุ่งหมาย มุมเล็กๆแห่งนี้จึงเกิดขึ้นเพื่อรวบรวมบทกวี ไว้เติมเต็มความฝัน ความรัก และศรัทธาให้กับหัวใจ...
ตอน : โศลกเศร้าแห่งความรัก (Trist cântec de dragoste) โดย นิกิต้า สเตอเนสคู

เพราะความฝัน ความรัก และศรัทธา คือแสงสว่างที่ชี้นำทางให้ชีวิตคนเราได้พบเจอจุดมุ่งหมาย มุมเล็กๆแห่งนี้จึงเกิดขึ้นเพื่อรวบรวมบทกวี (ที่ผู้เขียนชื่นชอบ) ไว้เติมเต็มความฝัน ความรัก และศรัทธาให้กับหัวใจ บทกวีที่นำมาลงนั้น ผู้เขียนเองต้องยอมรับว่าไม่สันทัดในการแปล บางครั้งเข้าใจความหมายตามตัวอักษร แต่กลับไม่เข้าใจสัญลักษณ์และปริศนา ที่ผู้แต่งทิ้งร่องรอยเอาไว้ จึงเลือกที่จะรักษาสาระไว้เป็นลำดับแรก ส่วนความงามและสุนทรียภาพถือเป็นเรื่องรองลงไป ขอให้ทุกท่านที่แวะเวียนเข้ามา มีความสุขกับการอ่าน และสุขภาพใจที่แข็งแรง

All truth is discovered by thinking and writing. In thinking we see the shadow of truth. In writing we touch the body of truth.
(อ.มนตรี อุมะวัชนี)




Trist cântec de dragoste

Numai viaţa mea va muri pentru mine-ntr-adevăr,
cândva.
Numai iarba ştie gustul pământului.
Numai sângelui meu îi e dor, într-adevăr,
de inima mea, când o părăseşte.
Aerul e-nalt, tu eşti înaltă,
tristeţea mea e înaltă.
Vine o vreme când mor caii.
Vine o vreme când se-nvechesc maşinile.
Vine o vreme când plouă rece
şi toate femeile poartă capul tău
şi rochiile tale.
Vine şi o pasăre mare, albă,
care ouă pe cer luna.


โศลกเศร้าแห่งความรัก
โดย นิกิต้า สเตอเนสคู

มีเพียงชีวิตของฉันเท่านั้น ที่จะตายเพื่อตัวฉัน ในความเป็นจริง
ไม่วันใดก็วันหนึ่ง
มีเพียงต้นหญ้าเท่านั้นที่รู้รสของผืนดิน
มีเพียงโลหิตของฉันเอง ที่ถวิล-
หาหัวใจของฉันในวันที่มันลับหาย
ท้องฟ้าแสนกว้างไกล คุณช่างแสนกว้างไกล
ความเศร้าของฉันก็แสนกว้างไกล
วันหนึ่งอาชาที่วิ่งมาหมื่นลี้จะสิ้นใจ
วันหนึ่งเครื่องยนต์ย่อมเสื่อมไป ไร้สิ้นสมรรถภาพ
วันหนึ่งหยาดฝนเยียบเย็นจะโรยรินจากเวิ้งฟ้า
และหญิงสาวทุกคน จะไขว่คว้า
เอาหมวกและเสื้อผ้า ของคุณไปสวมใส่
วันหนึ่งนกใหญ่สีขาวตัวนั้นจะมาเยือน
ตัวที่วางไข่ไว้เป็นดวงเดือนเหนือเวหานั่น

(แปล 1 สิงหาคม 2552)

บทกวีชิ้นนี้ เป็นหนึ่งในผลงานรวมบทกวีชุด Dreptul la timp (ตรงต่อเวลา) ซึ่งได้รับการตีพิมพ์ในปี 1965 เนื่องจากผู้แต่งได้เขียนบทกวีดีๆ ไว้จำนวนมาก จึงจะทยอยนำมาเผยแพร่ สลับกับบทกวีของท่านอื่นๆ ในโอกาสต่อไป



“...กวีไม่มีชีวประวัติส่วนตัว ประวัติส่วนตัวของพวกเขาแท้ที่จริงถูกรังสรรค์ขึ้นจากบทกวี ที่พวกเขาแต่งขึ้นเอง ว่าดีกว่าหรือแย่กว่า สูงส่งหรือต่ำต้อย...”



นิกิต้า สเตอเนสคู (Nichita Stănescu 1933 - 1983) เกิดที่เมืองปลอยเยชต์ (Ploieşti) ห่างจากเมืองบูคูเรสต์ไปทางทิศเหนือประมาณ 60 กิโลเมตร สำเร็จการศึกษาจากคณะภาษาศาสตร์ แห่งมหาวิทยาลัยบูคูเรสต์ ได้รับการยกย่องให้เป็นกวีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุคเปลี่ยนผ่านของโรมาเนีย (1960-1970) จนถึงยุคปัจจุบัน ทำงานในแวดวงสื่อในฐานะบรรณาธิการให้กับวารสารหลายฉบับ ผลิตงานกวีในเชิงปรัชญาชีวิต และความรักออกมามากมาย และผ่านเข้ารอบสุดท้ายในการพิจารณารางวัลโนเบล สาขาวรรณกรรม ประจำปี 1980 ซึ่ง Czesław Miłosz กวีเชื้อสายโปลิชเป็นผู้คว้ารางวัลนี้ไปครอง นิกิต้า สเตอเนสคูเป็นหนึ่งในกวีไม่กี่คน ที่ยืนหยัดผ่านคลื่นมรสุมจากรัฐบาลคอมมูนิสต์มาได้ โดยไม่ต้องอพยพออกนอกประเทศ

ผลงานชุดที่สร้างชื่อเสียงและอยู่ในความทรงจำของชาวโรมาเนียน เช่น Sensul iubirii (ความหมายแห่งรัก) O viziune a sentimentelor (มโนภาพของความรู้สึก) Necuvintele (ปราศจากถ้อยคำ) ฯลฯ

นิกิต้า สเตอเนสคูจากโลกนี้ไปในวัย 50 ปีด้วยโรคตับอักเสบ


คัดลอกจาก นิตยสารรายสะดวก Memorandum ๐๔ สิงหาคม ๒๕๕๒

ขับกล่อมหัวใจด้วยบทกวี

ขับกล่อมหัวใจด้วยบทกวี #2
siminiciuc

...บทกวี Totul ชิ้นนี้ได้ถูกตีพิมพ์ในวารสาร Amfiteatru เมื่อปี 1984 ณ ห้วงเวลาที่ดวงดาวสีแดงเหนือฟากฟ้าโรมาเนีย กำลังเคลื่อนคล้อยต่ำลงไปทุกที พร้อมกับที่แสงทองผ่องอำไพ ของรุ่งอรุณแห่งประชาธิปไตย ได้เริ่มเจิดจรัสขึ้นอย่างช้าๆ...
ตอน : Everything (Totul) โดย อานา บลันดิยาน่า

บทกวีที่ดีเยี่ยมนั้น ย่อมบอกเล่าเรื่องราวความเป็นไปแห่งยุคสมัยได้อย่างชัดเจน และบันทึกเรื่องราว ที่ประวัติศาสตร์อาจไม่บันทึก บทกวีของ อานา บลันดิยาน่า ชิ้นนี้ถูกหยิบมานำเสนอ เพราะเป็นงานเรียบง่าย แต่ได้บันทึกสภาพสังคมคอมมูนิสต์ของโรมาเนียเอาไว้อย่างกล้าหาญ ตัวเธอเองนั้นได้ชื่อว่าเป็นหญิงแกร่ง กวีผู้ยืนหยัดเคียงข้างประชาชน และต่อต้านการปกครองแบบเผด็จการคอมมูนิสต์ มาตลอดวันเวลาที่ยากลำบากของเธอ

บทกวี Totul ชิ้นนี้ได้ถูกตีพิมพ์ในวารสาร Amfiteatru เมื่อปี 1984 ณ ห้วงเวลาที่ดวงดาวสีแดงเหนือฟากฟ้าโรมาเนีย กำลังเคลื่อนคล้อยต่ำลงไปทุกที พร้อมกับที่แสงทองผ่องอำไพ ของรุ่งอรุณแห่งประชาธิปไตย ได้เริ่มเจิดจรัสขึ้นอย่างช้าๆ วารสารเล่มนี้ถูกเก็บออกจากแผงแทบจะทันทีหลังการวางจำหน่าย ตัวบรรณาธิการถูกไล่ออก คอลัมน์ประจำของอานาต้องถูกระงับ พร้อมกับคำขู่ทางโทรศัพท์

อย่างไรก็ดี บทกวีที่เก็บเอาถ้อยคำสั้นๆมาเรียงร้อยเข้าด้วยกันชิ้นนี้ กลับมีความเฉียบคม และดูเหมือนถ้อยคำแต่ละคำต่างก็มีความโดดเด่น เปี่ยมไปด้วยความหมายที่บอกเล่าเรื่องราวของตัวเองไว้อย่างสมบูรณ์ ทั้งยังได้รับความนิยมอย่างสูง เมื่อถูกนำไปตีพิมพ์ในตลาดมืด และหนังสือพิมพ์ The Independent ในสหราชอาณาจักร รวมทั้งผ่านการแปลเป็นภาษาอังกฤษ อ่านออกอากาศทางสถานีวิทยุยุโรปเสรีอีกด้วย


( เมื่ออ่านฉบับภาษาอังกฤษจบ โปรดแวะชมคำอธิบายด้านล่าง )

Totul

Frunze, cuvinte, lacrimi
Cutii de conserve, pisici
Tramvaie Gerovitalul, baietii de pe câteodata, cozi la Faina
Gargarite, sticle goale, discursuri
Imagini lungite la televizor
Gîndaci de Colorado, benzina
Stegulete, Cupa Campionilor Europeni
Masini cu butelii, portrete cunoscute
Mere refuzate la export
Ziare, franzele
Ulei în amestec, garoafe
Întîmpinari la aeroport
Cico, baloane
Salam Bucuresti, iaurt dietetic
Tiganci cu Kenturi, oua de Crevedia
Zvonuri
Serialul de Sîmbata, cafea cu înlocuitori
Lupta popoarelor pentru pace, coruri
Productie la hectar
Calea Victoriei
Cîntarea României, adidasi
Compot bulgaresc, bancuri, peste oceanic
Totul.



Everything

... Leaves, words, tears
Tinned Food, Cats
Trams from time to time, queues for flour
Weevils, empty bottles, speeches
Elongated images on the television
Colorado beetles, petrol
Pennants, the European Cup
Trucks with gas cylinders, familiar portraits
Export-reject apples
Newspapers, loaves of bread
Blended oil, carnations
Receptions at the airport
Cico-cola, balloons
Bucharest salami, diet yoghurt
Gypsy women with Kents, Crevedia Eggs
Rumours
The Saturday serial, coffee substitutes
The struggle of nations for peace, choirs
Production by the hectare
Gerovital, the Victoriei Avenue Mob
The Hymn of Romania, Adidas shoes
Bulgarian stewed fruit, jokes, sea fish
Everything.

ขอขอบคุณฉบับภาษาอังกฤษจาก Discover Transilvania


บทกวี Totul นั้นเป็นรายการของสิ่งของในชีวิตประจำวัน ทั้งสิ่งที่มีอยู่และไม่มีในสังคมโรมาเนียน ณ ห้วงขณะเวลานั้น มันจึงแทรกซึม เข้าสู่วิถีชีวิตที่คุ้นชินของชาวโรมาเนียนได้อย่างรวดเร็ว ผ่านเงื่อนไขของความยากจน การขาดแคลนอาหาร และสัญลักษณ์ ของลัทธิคลั่งไคล้บูชาในตัวประธานาธิบดีเชาเชสคูอย่างสุดโต่ง

คำอธิบาย

"Totul" (ทุกสิ่ง) เป็นคำที่เชาเชสคูใช้พูดทุกครั้ง ในสุนทรพจน์ของเขา เพื่อเน้นย้ำว่า “ทุกสิ่ง” สำเร็จลุล่วงลงได้โดยการบริหารจัดการของพรรคคอมมูนิสต์ และประชาชน“ทุกคน”เป็นหนี้บุญคุณการบริหารงานของเขา

Cats: แมวจรจัดตัวหนึ่งได้เล่นงานสุนัขน้อยตัวโปรดของเชาเชสคู ในขณะที่เขากำลังเดินสำรวจศูนย์ฝึกฝนพลเมือง เขาสั่งให้ทหารจับมัน แต่มันกลับหนีรอดไปได้ แมวจึงเป็นสัญลักษณ์เพียงอย่างเดียว ของผู้ที่กล้าหือกับเชาเชสคู

Trams from time to time: รถรางจะมีที่ว่างก็เพียงนานๆครั้ง นอกนั้นจะอัดแน่นไปด้วยผู้โดยสารเสมอ

Queues for flour: แถวที่รอรับแป้ง ขนมปัง และทุกๆสิ่ง ไม่ว่าจะเป็น น้ำมันพืช เนื้อสัตว์ ไข่ไก่ น้ำตาล ฯลฯ

Weevils: มอด ในแป้ง เมล็ดข้าวโพด เส้นพาสต้า ฯลฯ ที่ได้รับแจก

Empty bottles: คือขวดเปล่าที่เก็บกองๆเอาไว้ฝาก (ก็คือขายนั่นแล) ที่สหกรณ์ เพราะไม่มีอะไรจะนำมาบรรจุให้เต็ม หรือขวดที่หิ้วออกไปรับแจกน้ำมันพืช

Speeches: คำสุนทรพจน์ ทุกๆครั้งที่ประเทศประสบปัญหา เชาเชสคูจะออกมากล่าวสุนทรพจน์ และพูดย้ำประโยคเดิมๆ ว่าเขาได้ทำในสิ่งที่บกพร่องโดยสุจริต ขอให้ทุกคนตั้งมั่นในความสงบ และเชื่อมั่นในตัวเขา

Elongated images: ภาพที่ยาวยืด เพราะแผงรับสัญญาณโทรทัศน์ที่ล้าสมัย และคุณภาพที่ย่ำแย่ รูปภาพที่ปรากฏในทีวีจึงดูบูดเบี้ยวไม่เป็นตัว

Colorado beetles: แมลงปีกแข็งชนิดหนึ่ง ที่เข้าโจมตีไร่มันฝรั่ง แต่ชาวโรมาเนียนไม่มีอะไรจะรับมือกับมัน และรัฐบาลก็มิได้ใส่ใจ

Petrol: น้ำมันเชื้อเพลิงเป็นสิ่งที่ผลิตได้เองภายในประเทศ แต่กลับมีไว้เพื่อส่งออก มีการแจกจ่ายเพียงจำกัด และราคาแพงมากในตลาดภายใน

Pennants: ธงที่โบกสะบัดทุกครั้งที่มีการแข่งขันฟุตบอล หรือยิมนาสติกระหว่างคอมมูน และแน่นอน มีไว้โบกให้ท่านผู้นำ

European Cup: ฟุตบอลเป็นเกมกีฬาที่อนุญาติให้เล่นกันได้อย่างเสรี ทั้งระดับชาติและนานาชาติ – Sport was not political !!

Gas cylinders: ถังแก๊สหุงต้ม อ้างถึงรถบรรทุกแก๊สหุงต้มขนาดใหญ่ ที่ถูกนำมาขับโชว์ทั้งๆที่แก๊สยังไม่พร้อมจะนำมาแจกจ่าย ฝูงชนต่างตื่นเต้น และได้แต่เฝ้ารอคอยการมาของมัน วันแล้ววันเล่า

Familiar portraits: ภาพที่คุ้นเคย ไม่ว่าคุณจะมองไปทางไหน ก็จะเห็นภาพเหมือนของประธานาธิบดีเชาเชสคูแปะอยู่ทั่วไป ในอารมณ์ประมาณว่า บิ๊กบราเด้อกำลังจ้องมองคุณอยู่

Export-reject apples: การส่งออกแอปเปิ้ลที่ถูกปฏิเสธ ทั้งๆที่โรมาเนียเป็นแหล่งผลิตอาหารที่สำคัญของยุโรปตะวันออก แต่ผลิตภัณฑ์อาหารชั้นดี กลับถูกนำไปใช้แลกเปลี่ยนกับสินค้าอื่นๆ (Hard currency) ที่จำเป็นสำหรับรัฐ ไม่สามารถส่งออกเพื่อสร้างรายได้เป็นตัวเงินอย่างที่ควรจะเป็น

Newspapers: หนังสือพิมพ์ทุกฉบับมีแต่แถลงการณ์ที่ไร้สาระของพรรคคอมมูนิสต์ แทบไม่มีประโยชน์อันใด นอกจากใช้แทนกระดาษชำระในห้องน้ำ

Bread: ขนมปัง (pain) แบบฝรั่งเศสชนิดที่เป็นแท่งยาว ภาษาโรมาเนียนเรียก ฟรานเซเล่อ "franzelă" (ถ้ามากกว่าหนึ่งอัน เรียก ฟรานเซเล่ "franzele" หลายคนอาจเคยเห็นในเวียดนาม) ได้รับเมื่อมีการปันส่วน ทุกๆครั้งที่มาถึง แน่นอนว่าผู้คนจะแย่งกันต่อคิวอย่างยาวเหยียด

Blended oil: น้ำมันผสม คำสุภาพที่สุด สำหรับใช้เรียกสิ่งที่รัฐเรียกว่าน้ำมันทำอาหาร เพราะแม้แต่แป้งข้าวโพดก็ยังถูกผสมด้วยขี้เลื่อย

Receptions at the Airport: การต้อนรับที่สนามบิน เชาเชสคูชอบสร้างความวุ่นวายให้กับผู้เดินทางคนอื่นๆอยู่เสมอ ด้วยการสั่งให้จัดแถวต้อนรับตั้งแต่ในสนามบินยาวออกไปถึงถนน รายรอบด้วยแถวยุวชนที่คอยโบกธงรับท่านผู้นำ

Cico-Cola: จิโค่ โคล่า เครื่องดื่มราคาถูกยอดนิยม ที่คนดื่มพยายามจินตนาการว่าเป็น Coca-Cola

Bucharest Salami: บูคูเรสต์ซาลัม ไส้กรอกที่น่าขยะแขยงชนิดหนึ่ง ปรุงจากเศษเนื้อสัตว์หลากหลายชนิด ไส้กรอกคุณภาพดีผลิตที่เมืองซิบิว มีไว้สำหรับส่งออกเท่านั้น

Diet Yoghurt: เป็นคำเสียดสี ถึงนมบูดและโยเกิร์ตคุณภาพห่วยจนกินไม่ลง

Gypsy women with Kents: หญิงยิปซีกับบุหรี่เคนท์ บุหรี่ยี่ห้อเคนท์กลายเป็นของมีค่า ที่ใช้แลกเปลี่ยนแทนเงินในทศวรรษที่ 80 ของโรมาเนีย โดยเฉพาะในตลาดมืดที่ดำเนินการโดยพวกยิปซี บุหรี่เคนท์ยังเป็นเครื่องบ่งบอกฐานะของผู้สูบ แม้แต่กล่องเปล่าก็ยังถูกเก็บไว้โชว์ในตู้ประดับ

Crevedia eggs: เป็นไข่ที่มีคุณภาพดีที่สุด และไม่ว่าคิวรับแจกจะยาวนานแค่ไหน ทุกๆคนก็เต็มใจรอ

Rumours: ข่าวโคมลอย ในโลกที่ขาดแคลนข่าวสาร และสมองที่ถูกชำระล้าง ข่าวโคมลอยจึงเป็นสิ่งที่กระซิบกระซาบต่อๆกันไป เป็นเรื่องปกติ

Saturday serial: ละครชุดวันเสาร์ ละครยอดนิยมที่ถูกฉายซ้ำๆอย่างจำกัด เช่น Dallas หรือ Kojak เพราะเวลาที่เหลือนั้นจะถูกอุทิศให้กับสุนทรพจน์ของท่านผู้นำ และเพลงปลุกใจของพรรคคอมมูนิสต์

Coffee substitute: กาแฟปลอมๆที่ถูกผสมด้วยผลโอ๊กบด กาแฟจริงๆเป็นสิ่งหายาก อาจพบได้ตามภัตราคารที่มีไว้สำหรับรับรองแขกต่างชาติ กาแฟจริง 2 ถุงมีค่าเท่ากับเงินเดือนของคนที่ทำงานในตลาดมืดทั้งเดือน

Peace: สันติภาพ การเรียกร้องสันติภาพ และการลดอาวุธนิวเคลียร์เป็นสิ่งที่เชาเชสคูใช้พูด เพื่อเอาอกเอาใจชาติตะวันตกอยู่เสมอ โดยเฉพาะสหรัฐ ที่ใช้โรมาเนียเป็นฐานคานอำนาจสหภาพโซเวียต

Choirs: ชื่อคณะละครพื้นบ้าน เป็นอีกหนึ่งรายการน่าเบื่อที่เวียนออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์

Production figures: ตารางสถิติ ไม่ว่าคุณจะไปที่ไหน ก็จะพบเห็นตารางสถิติ ที่ระบุถึงตัวเลขทางเศรษฐกิจที่สวยงามเกินจริงอยู่เสมอ

Gerovital: ตัวยาชะลอความแ่ก่ หากยังจำกันได้ มีอยู่ยุคหนึ่งที่คุณหญิงคุณนายจากเมืองไทย นิยมหอบหิ้วสังขาร พากันไปรับการรักษาด้วยตัวยาขนานนี้ จากแพทย์หญิง อานา อัสลัน (Ana Aslan) ผู้ค้นคว้าวิจัยเรื่องการชะลอการแก่ตัวของเซลล์ (นึกถึงการ์ตูนเรื่องโคนัน นักสืบจิ๋วเลยแฮะ)

The Victoriei Avenue Mob: เด็กๆ บนถนนวิคตอรี หน่วยปฏิบัติภารกิจลับของเชาเชสคู ได้ปฏิบัติการทำความสะอาดถนนวิคตอรี ยาวมาถึงตึกคณะกรรมการกลางของรัฐบาล ด้วยการฉุดกระชากลากถูเด็กกำพร้าที่อาศัยอยู่บนถนนนั้นออกไป เด็กๆหลายคนหายสาบสูญ คดีนี้ถูกนำมาพิจารณาในศาลภายหลังเหตุการณ์ปฏิวัติด้วย

Hymn of Romania: เพลงสวดสรรเสริญ การร้องเพลงในที่สาธารณะที่ถูกจัดเป็นกิจวัตร เพื่อสรรเสริญท่านผู้นำ และเพื่อรณรงค์ลัทธิชาตินิยม

Adidas: รองเท้าที่ครั้งหนึ่งเคยใช้บ่งบอกฐานะของผู้สวมใส่ มีราคาสูงมากในตลาดมืด คนโรมาเนียนเรียกรองเท้าผ้าใบทุกยี่ห้อว่า อะดิดาส เหมือนที่คนไทยเรียกผงซักฟอกว่า "แฟ้บ" เรียกบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปว่า "มาม่า"

Bulgarian Stewed Fruit: ผลไม้เชื่อมจากบัลกาเรีย ปรากฏอยู่ทั่วทุกร้านค้า ในปี 1984 เนื่องจากโรมาเนียถูกทุ่มตลาดจากพ่อค้าชาวบัลกาเรียน

....ฯลฯ....

และนี่คือ Totul ทุกสิ่งล้วนเคยเกิดขึ้นจริงเหนือผืนดินโรมาเนีย



...ฉันเป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดในโลกใบนี้ เพราะฉันรู้จักการรอคอย...



อานา บลันดิยาน่า (Ana Blandiana 1942) เกิดที่เมืองติมิชัวร่า (Timişoara) ทางทิศตะวันตกของโรมาเนีย สำเร็จการศึกษาจากคณะภาษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยแห่งเมืองคลูช นาโปค่า หลังจากนั้นจึงเริ่มจับปากกาเขียนบทความ และบทกวีลงในวารสารต่างๆหลายฉบับ ด้วยหัวใจที่รักการเดินทาง เธอเคยได้รับเชิญไปอ่านบทกวีที่โรงละครแห่งกรุงปารีส ไปเยือนรัฐบาลสาธารณรัฐเช็ค เพื่อเขียนบทกวีเกี่ยวกับฤดูใบไม้ผลิในกรุงปราก และเข้าร่วมการอบรมหลักสูตรการประพันธ์ ที่มหาวิทยาลัยแห่งรัฐไอโอว่า ประเทศสหรัฐอเมริกา

ด้วยทรรศนะที่กว้างไกล และความตระหนักถึงภัยพิบัติของเผด็จการคอมมูนิสต์ เธอเริ่มเขียนบทกวีที่เป็นปฏิปักษ์ต่อลัทธิในปี 1980 จนถูกขึ้นบัญชีดำของหน่วยปฏิบัติการลับ และงานเขียนของเธอถูกแบนน์จากทุกสำนักพิมพ์ในโรมาเนีย จนต้องตระเวนตีพิมพ์ผลงาน ในประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ฝรั่งเศส เช็ค รัสเซีย ฯลฯ งานเขียนของเธอได้รับความนิยมไปไกลถึงโลกอาหรับ อเมริกาใต้ และญี่ปุ่น

เธอเข้าร่วมการปฏิวัติสู่แสงสว่างในปี 1989 ภายหลังการปฏิวัติ จึงหันมาจับงานการเมือง ด้านการรณรงค์ขจัดมรดกทางวัฒนธรรมแบบคอมมูนิสต์ ชื่อและประวัติของเธอได้รับการบันทึกลงในสาราณุกรมอังกฤษ (Encyclopedia britannica)

คัดลอกจาก นิตยสารรายสะดวก Memorandum ๐๔ สิงหาคม ๒๕๕๒

Dream a Little Dream of Me

Dream a Little Dream of Me

Stars shining bright above you
Night breezes seem to whisper "i love you"
Birds singin’ in the sycamore trees
Dream a little dream of me

Say nighty-night and kiss me
Just hold me tight and tell me you’ll miss me
While I’m alone and blue as can be
Dream a little dream of me

Stars fading but I linger on dear
Still craving your kiss
I’m longin’ to linger till dawn dear
Just saying this

Sweet dreams till sunbeams find you
Sweet dreams that leave all worries behind you
But in your dreams whatever they be
Dream a little dream of me

Stars shining up above you
Night breezes seem to whisper "i love you"
Birds singin’ in the sycamore trees
Dream a little dream of me

Sweet dreams till sunbeams find you
Sweet dreams that leave all worries behind you
But in your dreams whatever they be
Dream a little dream of me

World (What Kind of World Do You Want?

World (What Kind of World Do You Want?
Artist: Five For Fighting

Got a package full of Wishes
A Time machine, a Magic Wand
A Globe made out of Gold
No Instructions or Commandments
Laws of Gravity or
Indecisions to uphold

รับหีบห่อ เต็มเปี่ยม แรงปรารถนา
เครื่องข้ามเวลา คทากายสิทธิ์ พิชิตความฝัน
ดังโลกถูก ปลูกสร้างด้วย ทองสุวรรณ
ไร้สิ่งคั่น ข้อชี้นำ คำสั่งใด

ไร้ซึ่งกฎ แรงดึง ดูดแห่งโลก
หรือแม้โชค ชี้ชะตา ก็หาไม่
ปราศจาก ความท้อแท้ ไม่แน่ใจ
สิ่งเฉไฉ ลังเลใด ไม่นำพา


Printed on the box I see
A.C.M.E.'s Build-a-World-to-be
Take a chance - Grab a piece
Help me to believe it

คำถ้อยความ บนกล่อง ที่มองเห็น
"สร้างโลกเป็น ดั่งใจฝัน อันปรารถนา"
คือคำขวัญ ของแอคมี่ ที่ให้มา
ช่วยเปิดตา พาเชื่อมั่น ในการนี้


What kind of world do you want?
Think Anything
Let's start at the start
Build a masterpiece
Be careful what you wish for
History starts now...

โลกแบบไหน เธออยากได้ ใคร่จะเห็น
คิดให้เป็น แต่แรกเริ่ม แต่งเติมสี
สร้างสรรค์งาน อันล้ำค่า กว่าเคยมี
ตรองให้ดี อย่างถ้วนถี่ี ก่อนเริ่มการ

ประวัติศาสตร์ จักจารึก บันทึกแล้ว
เป็นทิวแถว ต่อจากแนว จุดเริ่มนั้น
ลากเส้นสวย สีสด ใสสะคราญ
จะตระการ ดั่งจันทร์เพ็ญ เด่นกว่าใคร


Should there be people or peoples
Money, Funny pedestals for Fools who never pay
Raise your Army – Choose your Steeple
Don't be shy, the satellites can look the other way

ควรจะมี ผู้คน หรือผองชน
เงินตราดล คนเขลาเคี่ยว เหนียวไม่ใช้
สร้างฐานทัพ เลือกหลังคา ยอดสูงไกล
อย่าได้อาย เห็นดาวเทียม หลายเหลี่ยมทาง


Lose the Earthquakes – Keep the Faults
Fill the oceans without the salt
Let every Man own his own Hand
Can you dig it baby?

สมานรอยเลื่อน หยุดแรงเคลื่อน แผ่นดินไหว
เติมทะเลใส ไร้รสเกลือ เจือความหวัง
ชนทุกชื่อ พร้อมสองมือ คือพลัง
ชูสล้าง สร้างโลกใหม่ ให้ดูดี


What kind of world do you want
Think Anything
Let's start at the start
Build a masterpiece
Be careful what you wish for
History starts now...

โลกแบบไหน เธออยากได้ ใคร่จะเห็น
คิดให้เป็น แต่แรกเริ่ม แต่งเติมสี
สร้างสรรค์งาน อันล้ำค่า กว่าเคยมี
ตรองให้ดี อย่างถ้วนถี่ี ก่อนเริ่มการ

ประวัติศาสตร์ จักจารึก บันทึกแล้ว
เป็นทิวแถว ต่อจากแนว จุดเริ่มนั้น
ลากเส้นสวย สีสด ใสสะคราญ
จะตระการ ดั่งจันทร์เพ็ญ เด่นกว่าใคร


Sunlight's on the Bridge
Sunlight's on the Way
Tomorrow's Calling
There's more to this than Love

ดวงตะวัน สาดแสงทอง ต้องสะพาน
แสงงามนั้น ส่องสว่าง ทางไสว
ยินเสียงเพรียก ของวันพรุ่ง อยู่ไม่ไกล
มีมากมาย เกินกว่ารัก ประจักษ์แล้ว


What Kind of world do you want
What Kind of world do you want

โลกแบบไหน ที่หัวใจ เธอต้องการ
โลกแสนหวาน สดใส ดั่งใยแก้ว
โลกแบบนั้น หรือแบบนี้ ชี้เป็นแนว
งามผ่องแผ้ว สวยสล้าง อย่างไรดี


What Kind of world do you want
Think Anything
Let's start at the start
Build a masterpiece

โลกแบบไหน เธออยากได้ ใคร่จะเห็น
คิดให้เป็น แต่แรกเริ่ม แต่งเติมสี
สร้างสรรค์งาน อันล้ำค่า กว่าเคยมี
ตรองให้ดี อย่างถ้วนถี่ ก่อนเริ่มการ


History Starts Now
Be careful what you wish for
Start Now

ประวัติศาสตร์ จักจารึก บันทึกแล้ว
เป็นทิวแถว ต่อจากแนว จุดเริ่มนั้น
ระวังระไว ในปรารถนา ที่หมายมั่น
เริ่มสืบสาน แต่นี้ไป ให้เป็นจริง

คัดลอกจาก วิชาการ.คอม

You And I

You And I
Artist: Scorpions


I lose control because of you babe
I lose control when you look at me like this
there's something in your eyes that is sayin' tonight
I'm not a child anymore, life has opened the door
to a new exciting life

สุดควบคุม จิตเกินเขต เหตุจากใคร
แทบละลาย แรงชม้าย ชายตาหญิง
ค่ำคืนนี้ ตาเธอเอ่ย เผยบางสิ่ง
เธอก็หญิง ฉันก็ชาย ใช่เด็กน้อย

ดั่งชีวิต เปิดประตู สู่สิ่งใหม่
สุขหัวใจ ตื่นเต้น เด่นเกินร้อย
ดวงตาพราว ระยับดาว ประดับพลอย
สิ่งที่คอย ใช่แค่ฝัน บันเทิงใจ


I lose control when I'm close to you babe
I lose control don't look at me like this
there's something in your eyes, is this love at first sight
like a flower that grows, life just wants you to know
all the secrets of life

It's all written down in your lifelines
it's written down inside your heart

หลอมละลาย ยามเมื่อกาย อยู่ใกล้เธอ
แทบละเมอ เมื่อเธอจ้อง มองชม้าย
หรือรักแรก พบสบตา พาชื่นใจ
เปรียบดอกไม้ เบ่งบานใน สองใจเรา

ดั่งชีวิต ปารถนา ให้เธอรู้
ที่ซ่อนอยู่ ของความลับ ใช่อับเฉา
ถูกขีดเขียน ลายเส้นสัก มีหนักเบา
ขีดเส้นยาว ลากลง ตรงกลางใจ


You and I just have a dream
to find our love a place
where we can hide away
you and I were just made
to love each other now
forever and a day

เธอกับฉัน เพียงมีฝัน พลันร่วมแรง
ค้นหาแหล่ง ที่จะพบ หลบพักได้
ร้อยเรียงรัก ถักทอใย ไม่เสื่อมคลาย
ตั้งแต่นี้ ตลอดไป ไกลเกินกาล


I lose control because of you babe
I lose control when you look at me like this
there's something in your eyes that is sayin' tonight
I'm so curious for more just like never before
in my innocent life

It's all written down in your lifelines
it's written down inside your heart

สุดควบคุม จิตเกินเขต เหตุจากใคร
แทบละลาย แรงชม้าย ชายตาฝัน
ค่ำคืนนี้ ตาเธอเอ่ย เผยสัมพันธ์
ใคร่อยากหัน ให้ได้เห็น กว่าเช่นเคย

ดั่งชีวิต ไร้เดียงสา มีค่าหนึ่ง
หัวใจจึง ครวญใคร่ ได้เปิดเผย
ถูกขีดเขียน เส้นยาว หนักเบาเอย
ขีดเส้นเลย ลากลง ตรงกลางใจ


You and I just have a dream
to find our love a place
where we can hide away
you and I were just made
to love each other now
forever and a day

เธอกับฉัน เพียงมีฝัน พลันร่วมแรง
ค้นหาแหล่ง ที่จะพบ หลบพักได้
ร้อยเรียงรัก ถักทอใย ไม่เสื่อมคลาย
ตั้งแต่นี้ ตลอดไป ไกลเกินกาล


Time stands still
when days of innocence are falling for the night
I love you girl I always will
I swear I'm there for you till the day I'll die

อยู่ที่นั่น หยุดตรงนั้น ณ เวลา
ไร้เดียงสา หล่นหายไป ในคืนนั้น
ฉันรักเธอ ใช่ละเมอ เพ้อรำพัน
ขอสาบาน จะรักมั่น จนวันตาย


คัดลอกจาก วิชาการ.คอม

When the Children Cry

When the Children Cry
Cover Version (Original by White Lion)


little child
dry your crying eyes
how can I explain
the fear you feel inside

เจ้าเด็กน้อย ตัวจ้อย ไร้เดียงสา
ซับน้ำตา ที่นองหน้า ปริ่มล้ันปรี่
จะปลอบให้ คลายเศร้า อย่างไรดี
ลบความกลัว ทุกข์ีทวี ภายในใจ


cause you were born
into this evil world
where man is killing man
but no one knows just why

เพราะเจ้าืได้ เกิดใน โลกใบนี้
ดินแดนที่ ปีศาจ ถือบาตรใหญ่
ผู้คนถูก ฆ่าเข่น เช่นเถื่อนไพร
แต่หาใคร รู้เหตุไม่ ใยราญรอน


what have we become
just look what we have done
all that we destroyed
you must build again

อันตัวตน คนเรา ที่เป็นอยู่
ให้มองดู สิ่งเคยทำ นำแต่ก่อน
ทุกสิ่งสรรพ ถูกทำลาย ไม่อาวรณ์
หวังเจ้าย้อน สร้างสรรใหม่ ให้รางชาง


when the children cry
let them know we tried
cause when the children sing
then the new world begins

เมื่อเด็กน้อย ร้องครวญ หวนร่ำไห้
ส่งสารไป ให้เขารู้ เราอยู่ข้าง
ด้วยเสียงเพลง เด็กน้อย คอยนำทาง
จะสรรสร้าง โลกใบใหม่ ได้เริ่มต้น

little child
you must show the way
to a better day
for all the young

เด็กวันนี้ คือผู้ใหญ่ ในวันหน้า
เจ้าต้องกล้า ปูหนทาง สร้างถนน
เพื่อวันหน้า ที่ดีกว่า กล้าผจญ
เพื่อผองชน รุ่นหลัง ทั้งแผ่นดิน


cause you were born
for all the world to see
that we all can live
with love and peace

เพราะเจ้าเกิด มาเกื้อ เพื่อพันผูก
เพื่อชนทุก พวกพ้อง พี่น้องสิ้น
หวังให้เจ้า เห็นผู้คน ได้ยลยิน
รวมใจริน ร้อยรัก สามัคคี


no more presidents
and all the wars will end
one united world
under god

ไร้ผู้มี อำนาจ ถือบาตรใหญ่
สงครามไพร เถื่อนชั่ว ทั่วถอยหนี
สมัครสมาน สมานฉันท์ สามัคคี
ร่วมนที ใต้แผ่นฟ้า ร่วมเส้นทาง


when the children cry
let them know we tried
cause when the children sing
then the new world begins

เมื่อเด็กน้อย ร้องครวญ หวนร่ำไห้
ส่งสารไป ให้เขารู้ เราอยู่ข้าง
ด้วยเสียงเพลง เด็กน้อย คอยนำทาง
จะสรรสร้าง โลกใบใหม่ ได้เริ่มต้น


what "have we" become
just look what we have done
all that we destroyed
you must build again

อันตัวตน คนเรา ที่เป็นอยู่
ให้มองดู สิ่งเคยทำ นำผ่านพ้น
ทุกสิ่งสรรพ ถูกทำลาย ไม่ยินยล
หวังเจ้าดล สร้างสรรใหม่ ให้ได้ดี


no more presidents
and all the wars will end
one united world
under god

ไร้ผู้มี อำนาจ ถือบาตรใหญ่
สงครามไพร เถื่อนชั่ว ทั่วถอยหนี
สมัครสมาน สมานฉันท์ สามัคคี
ร่วมนที ใต้แผ่นฟ้า ร่วมเส้นทาง


when the children cry
let them know we tried
when the children fight
let them know it ain't right

เมื่อเด็กน้อย ร้องครวญ หวนร่ำไห้
ส่งสารไป ให้เขารู้ เราอยู่ข้าง
เจ้ากอบกู้ สู้ไม่ถอย คอยนำทาง
ตะโกนดัง ให้โลกรู้ สู้เพื่อไท


when the children pray
let them know the way
cause when the children sing
then the new world begins

ยามเด็กน้อย อธิษฐาน สวดอ้อนวอน
โลกคลายร้อน ผ่อนหิว ดับกระหาย
ด้วยเสียงเพลง เด็กน้อย คอยนำไป
เพื่อสรรสร้าง โลกใบใหม่ ให้งดงาม



คัดลอกจาก วิชาการ.คอม

ฺBlowing In The Wind

ฺBlowing In The Wind
By Bob DyLan

How many roads must a man walk down
Before they call him a man
How many seas must a white dove sail
Before she sleeps in the sand

กี่ถนน ชายสักคน ต้องเดินผ่าน
ก่อนถูกเขา เรียกขาน ว่าชาญเชื้อ
กี่ทะเล ที่คนขาว เฝ้าล่องเรือ
ก่อนนวลเนื้อ ทาบทราย เอนกายลง


How many times must the cannonballs fly
Before they are forever banned
The answer, my friend, is blowing in the wind
The answer is blowing in the wind

กี่เพลา ลูกปืนใหญ่ ได้เผาผลาญ
ก่อนถูกกั้น เก็บไว้ ไร้พิษสง
คำตอบนั้น แผ่วพริ้ว พัดทิวธง
โบกโชยชง สบัดไหว ในสายลม


How many years must a mountain exist
Before it is washed to the sea
How many years can some people exist
Before they're allowed to be free

กี่ปีแล้ว ขุนเขา ชูสล้าง
ก่อนถูกล้าง ลงทะเล เร่รักขม
กี่ปีเล่า ผู้่คนเฝ้า ทุกข์ระทม
ก่อนฝังจม ทาสไพร่ ใฝ่เสรี


How many times can a man turn his head
And pretend that he just doesn't see
The answer, my friend, is blowing in the wind
The answer is blowing in the wind

กี่ครั้งกัน ที่คนหัน เบือนหนีหน้า
แสร้งทำท่า มองไม่เห็น เร้นหลีกหนี
คำตอบนั้น แผ่วไหว ไม่ใยดี
แกล้งทำที บิดพลิ้ว ลิ่วลอยลม


How many times must a man look up
Before he can see the sky
How many ears must one man have
Before he can hear people cry

กี่เพลา ที่คนหนึ่ง เฝ้าแหงนหน้า
ก่อนจะเห็น ท้องฟ้า อวดแสงโสม
กี่เพลงพิณ บรรเลงร้อง ก้องโพยม
ก่อนจะข่ม หูฟัง ครางคนครวญ


How many deaths will it take till he knows
That too many people have died
The answer, my friend, is blowing in the wind
The answer is blowing in the wind

กี่ความตาย จะท้าทาย ให้ได้รู้
อีกกี่ผู้ ลาลับ มิกลับหวน
คำตอบนั้น แกว่งไกว ไหวเรรวน
สายลมหวน หยอกเย้า เคล้าน้ำตา...

Ode To Joy

Ode To Joy
Symphony No.9 by Beethoven


Freude, schöner Götterfunken
Tochter aus Elysium,
Wir betreten feuertrunken,
Himmlische, dein Heiligtum!

Joy, beautiful spark of gods
Daughter of Elysium,
We enter drunk with fire,
Heavenly one, your sanctuary!

หรรษาไซร้ ประกายงาม แห่งพระเจ้า
สวยพริ้มเพรา ดั่งบุตรสาว เทพสวรรค์
ดื่มด่ำไฟ บาดคอ หลอกล่อจันทร์
โอ้สวรรค์ สรรเสกล้ำ เลิศวิมาน


Deine Zauber binden wieder
Was die Mode streng geteilt;
Alle Menschen werden Brüder,
Wo dein sanfter Flügel weilt.

Your magic binds again
What custom sternly parts.
All men become brothers,
Where your gentle wing rests.

มนตราใด เจ้าเป่าไป ให้ข้าหลง
ดั่งชีพปลง แยกร่าง อย่างแข็งขัน
ชนทั้งผอง ล้วนเป็น พี่น้องกัน
ที่แห่งนั้น นวลปีกเจ้า ได้เข้าพิง


Wem der große Wurf gelungen,
Eines Freundes Freund zu sein;
Wer ein holdes Weib errungen,
Mische seinen Jubel ein!

Whoever has had the great fortune
To be a friend's friend,
Whoever has won a devoted wife,
Join in our jubilation!

ไม่ว่าใคร ได้โชค อันยิ่งใหญ่
ขอส่งใจ จิตไมตรี ยินดียิ่ง
เอาชนะ ใจพ่อตา ผู้กล้าจริง
ยอมยกหญิง บุตรี เป็นศรีภรรยา


Ja, wer auch nur eine Seele
Sein nennt auf dem Erdenrund!
Und wer's nie gekonnt, der stehle
Weinend sich aus diesem Bund!

Indeed, whoever can call even one soul,
His own on this earth!
And whoever was never able to, must creep
Tearfully away from this band!

แม้นใครกล้า เรียกวิญญาณ เพียงหนึ่งได้
ผู้นั้นไซร้ ครองโลกได้ ไร้กังขา
ใครผู้นั้น แม้นไม่เคย เผยศรัทธา
คงอ่อนล้า ร้องครวญไห้ ไกลว่านเครือ


Freude trinken alle Wesen
An den Brüsten der Natur;
Alle Guten, alle Bösen
Folgen ihrer Rosenspur.

Joy all creatures drink
At the breasts of nature;
All good, all bad
Follow her trail of roses.


หฤหรรษ์ สรรสร้าง สุรารส
กลั่นจากหยด ธรรมชาติ พิลาสเหลือ
ร้อยงามงด ร้อยไร้รส ระคนเจือ
ตามติดเกื้อ กลิ่นกุหลาบ พิลาปรำพัน


Küße gab sie uns und Reben,
Einen Freund, geprüft im Tod;
Wollust ward dem Wurm gegeben,
Und der Cherub steht vor Gott.

Kisses she gave us, and wine,
A friend, proven in death;
Pleasure was to the worm given,
And the cherub stands before God.


จุมพิศนาง ที่มอบให้ พร้อมไวน์หอม
สหายพร้อม ลองลิ้ม ชิมลางฝัน
แรงปรารถนา หนอนพิษร้าย ที่ให้กัน
ใบหน้าหวาน ดังยิ้มหยัน ชั้นเทวา

Froh, wie seine Sonnen fliegen
Durch des Himmels prächt'gen Plan,
Laufet, Brüder, eure Bahn,
Freudig, wie ein Held zum Siegen.

Glad, as His suns fly
Through the Heaven's glorious design,
Run, brothers, your race,
Joyful, as a hero to victory.

ดวงตะวัน ลอยล่อง ร้องยินดี
ผ่านฉิมพลี วิมานเมฆ เสกสรรหา
ฉันพี่น้อง วิ่งแข่ง แรงสุดตา
เปรมปรีดา ดั่งนักสู้ ผู้คว้าชัย


Seid umschlungen, Millionen!
Diesen Kuß der ganzen Welt!
Brüder, über'm Sternenzelt
Muß ein lieber Vater wohnen.

Be embraced, millions!
This kiss for the whole world!
Brothers, above the starry canopy
Must a loving Father dwell.

สองแขนนี้ สวมโอบ หลายล้านกอด
จุมพิศฟอด ฟื้นชีวา โลกาสมัย
ฉันน้องพี่ ดั่งดวงดาว พราวฟ้าพราย
อุ่นละไม ดุจไอรัก จากพ่อเดียว


Ihr stürzt nieder, Millionen?
Ahnest du den Schöpfer, Welt?
Such' ihn über'm Sternenzelt!
Über Sternen muß er wohnen.

Do you bow down, millions?
Do you sense the Creator, world?
Seek Him beyond the starry canopy!
Beyond the stars must He dwell.

โค้งคำนับ กี่โค้ง ล้านครั้งหรือ
สัมผัสมือ ผู้สร้างโลก ใบสีเขียว
ค้นหาเขา ข้ามแผ่นฟ้า ฝ่าลมเกลียว
คือหนึ่งเดียว อยู่เหนือดาว เขาคือใคร


Finale repeats the words:
Seid umschlungen, Millionen!
Diesen Kuß der ganzen Welt!
Brüder, über'm Sternenzelt

Finale repeats the words:
Be embraced, you millions!
This kiss for the whole world!
Brothers, beyond the star-canopy

ดั่งละคร ตอนสุดท้าย ทวนถ้อยคำ
สองแขนนำ พร่ำพรอด กอดล้านหลาย
จุมพิศฟอด ฟื้นชีวา โลกามลาย
เหนือสิ่งใด สุดแผ่นฟ้า คือพี่น้อง


Muß ein lieber Vater wohnen.
Seid umschlungen,
Diesen Kuß der ganzen Welt!

Must a loving Father dwell.
Be embraced,
This kiss for the whole world!

อุ่นละไม ดุจไอรัก จากอกพ่อ
ร่วมสานต่อ ปณิธาน กันทั้งผอง
จูบนี้นั้น สรรสร้างโลก ให้สมปอง
ดั่งธารทอง ชุ่มฉ่ำ ค้ำแผ่นดิน


Freude, schöner Götterfunken
Tochter aus Elysium,
Freude, schöner Götterfunken

Joy, beautiful spark of gods,
Daughter of Elysium,
Joy, beautiful spark of gods

หรรษาไซร้ ประกายงาม แห่งพระเจ้า
สวยพริ้มเพรา ดั่งบุตรสาว เทพถวิล
สุขหรรษา งดงามตา พายลยิน
รวยระริน เฝ้าดื่มด่ำ ร่ำสุรา

Crush

Crush (หลง)
by David Archuleta


I hung up the phone tonight,
something happened for the first time, deep inside
It was a rush, what a rush
Cause the possibility that you would ever
Feel the same way about me

หลังวางสาย ในคืนค่ำ เย็นย่ำนี้
สิ่งแรกมี ก่อเกิดใน ใจลึกล้ำ
คือความร้อน รุ่มเร่า เข้าครอบงำ
สุดดื่มด่ำ สองใจเรา เฝ้าร่ำไร


It's just too much, just too much
Why do I keep running from the truth
All I ever think about is you
You got me hypnotized, so mesmerized, and I just got to know

ช่างล้นเหลือ เกินไป มากมายยิ่ง
ไฉนวิ่ง หนีความจริง ยิ่งผลักไส
ทั้งหมดล้วน เคยครวญถึง ซึ้งคือใคร
เพิ่งเข้าใจ ถูกมนต์เธอ เพ้อรำพัน


Do you ever think, when you're all alone
All that we could be, Where this thing could go
Am I crazy or falling in love
Is it real or just another crush?

เคยคิดไหม ยามเดียวดาย ใคร่คิดครวญ
ทุกสิ่งล้วน อาจเป็นไป ได้ดั่งฝัน
หรือเราบ้า หลงรักเธอ ทุกคืนวัน
เป็นจริงนั้น หรือเพียงฝัน หลงงมงาย


Do you catch a breath, when I look at you
Are you holding back, like the way I do
Cause I'm tryin, try to walk away
But I know this crush ain't goin away, goin away

เห็นหน้าเธอ ยินเสียงไหม ใจฉันเต้น
เธอล่ะเป็น เช่นกัน เหมือนฉันไหม
แม้จะเพียร พยายาม เดินจากไป
แต่รู้ได้ ความหลงไหล ไม่มีเลือน


Has it ever crossed your mind when we were hanging
Spending time girl, are we just friends
Is there more, is there more

เคยหักห้าม ใจตน เมื่อเคียงคู่
ที่เป็นอยู่ ใช้เวลา ค่าเพียงเพื่อน
หรือเป็นได้ มากกว่านั้น จิตหวั่นเตือน
ไม่แชเชือน บิดเบือนไป ให้เวลา


See it's a chance we've gotta take
Cause I believe we can make this into
Something that will last, last forever, forever

เห็นโอกาส ซึ่งสองเรา คว้าเอาไว้
เพราะเชื่อใจ เราทำได้ ไร้กังขา
แม้สิ่งนั้น อยู่ข้างใน ตลอดมา
จะยังค่า คงอยู่ คู่กัปกัลป์


Do you ever think, when you're all alone
All that we could be, Where this thing could go
Am I crazy or falling in love
Is it real or just another crush?

เคยคิดไหม ยามเดียวดาย ใคร่คิดครวญ
ทุกสิ่งล้วน อาจเป็นไป ได้ดั่งฝัน
หรือเราบ้า หลงรักเธอ ทุกคืนวัน
เป็นจริงนั้น หรือเพียงฝัน หลงงมงาย


Do you catch a breath, when I look at you
Are you holding back, like the way I do
Cause I'm tryin, try to walk away
But I know this crush ain't goin away, goin away

เห็นหน้าเธอ ยินเสียงไหม ใจฉันเต้น
เธอล่ะเป็น เช่นกัน เหมือนฉันไหม
แม้จะเพียร พยายาม เดินจากไป
แต่รู้ได้ ความหลงไหล ได้ฝังตรึง


Why do I keep running from the truth
All I ever think about is you
You got me hypnotized, so mesmerized
And I just got to know

ไฉนวิ่ง หนีความจริง ยิ่งผลักไส
ทั้งหมดไซร้ เธอคนดี ที่คิดถึง
ถูกสะกด ต้องมนต์เธอ เพ้อรำพึง
ตกตะลึง เพิ่งได้รู้ อยู่เสียนาน


Do you ever think, when you're all alone
All that we could be, Where this thing could go
Am I crazy or falling in love
Is it real or just another crush?

เคยคิดไหม ยามเดียวดาย ใคร่คิดครวญ
ทุกสิ่งล้วน อาจเป็นไป ได้ดั่งฝัน
หรือเราบ้า หลงรักเธอ ทุกคืนวัน
เป็นจริงนั้น หรือเพียงฝัน หลงงมงาย


Do you catch a breath, when I look at you
Are you holding back, like the way I do
Cause I'm tryin, try to walk away
But I know this crush ain't goin away, goin away

เห็นหน้าเธอ ยินเสียงไหม ใจฉันเต้น
เธอล่ะเป็น เช่นกัน เหมือนฉันไหม
แม้จะเพียร พยายาม เดินจากไป
แต่รู้ได้ ความหลงไหล ไม่มีเลือน

The Way We Were

The Way We Were
By Barbra Streisand

Mem'ries,
Light the corners of my mind
Misty water-colored memories
Of the way we were

โอ้ว่าความทรงจำทั้งหลาย
หลากแง่มุมส่องประกายในใจฉัน
ภาพสีน้ำอันหม่นเครือเมื่อวานวัน
บนถนนเส้นนั้นที่เคยเป็น


Scattered pictures,
Of the smiles we left behind
Smiles we gave to one another
For the way we were

ภาพหนหลังยิ้มละไมโปรยปรายผ่าน
เหลือทิ้งไว้ในวันวานนั้นงามเด่น
รอยยิ้มหวานให้แก่กันซ่านกระเซ็น
งดงามเป็นพลังใจไว้ต่อกัน


Can it be that it was all so simple then?
Or has time re-written every line?
If we had the chance to do it all again
Tell me, would we? Could we?

เป็นไปได้แสนง่ายดายอย่างไรหนอ
หรือเวลาสามารถกรอทอเส้นฝัน
ถ้าแม้นมีโอกาสใหม่ในคืนนั้น
เพียงบอกฉัน หากทำได้ ไขขานที


Mem'ries, may be beautiful and yet
What's too painful to remember
We simply choose to forget
So it's the laughter...We will remember

ความทรงจำมิอาจงามดั่งเช่นหมาย
เจ็บปวดใจเกินจดจำไว้เต็มที่
เราเลือกจะลืมง่ายดายไม่รอรี
เสียงหัวเราะสดใสสิที่ควรจำ


Whenever we remember
The way we were
The way we were

แม้นเมื่อใดหากมีใจระลึกถึง
สุดตราตรึงถึงวันเก่าเฝ้าดื่มด่ำ
ณ ถนนที่เราเคยร้อยเรียงคำ
ฝากใจจำจดไว้ในวันวาน

Memory

Memory

Midnight...
Not a sound from the pavement
Has the moon lost her memory?
She is smiling alone...In the lamplight

เที่ยงคืนค่ำ...
ไม่ใช่เสียงร้องร่ำจากบาทวิถี
หรือจันทร์เจ้าสูญเสียความทรงจำที่เคยมี
เจ้าจึงยิ้มยินดีเพียงลำพัง...กลางแสงไฟ


The withered leaves collect at my feet
And the wind begins to moan
Memory, All alone in the moonlight
I can smile at the old days

ใบไม้แห้งหล่นร่วงพรูอยู่ปลายเท้า
สายลมหนาวเริ่มครวญครางอย่างสงสัย
ความทรงจำในแสงจันทร์อันเดียวดาย
ยังยิ้มได้ถึงวันวานที่ผ่านพ้น


I was beautiful then
I remember
The time I knew what happiness was
Let the memory live again

เคยสวยเด่นเพ็ญสกาวพราวสดใส
กระจ่างในดวงฤดีมิหมองหม่น
ช่วงเวลาความสุขสมซึ้งกมล
บันดาลดลความทรงจำนำกลับคืน


Every street lamp
Seems to beat A fatalistic warning
Someone mutters
And a street lamp gutters

ตามถนนทุกทุกดวงแสงไฟโคม
ดั่งจะข่มโชคชะตาอันขมขื่น
แม้มีใครคอยบ่นพรำทุกค่ำคืน
แต่ดวงไฟยังยืนทอประกายทอง


And soon it will be morning
Daylight, I must wait for the sunrise
I must think of a new life
And I mustn't give in

อีกประเดี๋ยวก็รุ่งเช้าร่ำรำไร
เข้าวันใหม่เฝ้ารอแสงตะวันส่อง
ต้องคิดถึงชีวิตใหม่อันเรืองรอง
และฉันต้องไม่ยอมแพ้แม้เคยล้า


When the dawn comes
Tonight will be a memory too
And a new day will begin
Burnt out ends of smokey days

เมื่ออรุณรุ่งวันใหม่ได้มาถึง
คืนนี้จะตราตรึงไว้ในภายหน้า
และวันใหม่จะเริ่มต้นแล้วอีกครา
ผลาญเผาคร่าวันมัวหม่นให้พ้นไป


The stale cold smell of morning
The street lamp dies
Another night is over
Another day is dawning

กลิ่นหนาวเย็นเหม็นไหม้ในตอนเช้า
ไฟถนนที่ทอดยาวดับสลาย
สูญหมดสิ้นคืนเหงาอันเปล่าดาย
แล้ววันใหม่ก็คืบคลานขับขานเพลง


Touch me...It's so easy to leave me
All alone with the memory
Of my days in the sun

เพียงสัมผัสที่ใจฉันก่อนจากลา
ความเหว่ว้าตราตรึงแท้แม้เคยเคว้ง
ในท่ามกลางแสงตะวันมิหวั่นเกรง
จะไม่เร่งรั้งเอาไว้เลยคนดี


If you touch me
You'll understand what happiness is
Look...a new day has begun

หากสัมผัสจะซาบซึ้งถึงความสุข
ใดใดทุกข์หลบเร้นเว้นหลีกหนี
ความอบอุ่นกรุ่นในใจที่ฉันมี
ดูนั่นสิ...เช้าวันใหม่ได้เริ่มแล้ว


คัดลอกจาก วิชาการ.คอม

Outside the Law

Outside the Law

No prison shall hold the poet
He shall not ask for pardon
When justice serves dictatorship
Is the time to establish the people’s court

You support power-craving groups
The people’s rights and freedom are robbed
Your end justifies any means
You deny the voice of the people

You forcibly plant the seeds of insane logic
That drug people tame
Covered with empty morals
Underneath, they are full of crime

You kill groups of progressive thought
And those of poor status
Too honest to see through your tricks
You imprison them in poverty, hunger, sickness, death

No prison shall hold the poet
And the millions who are free
We will shout and condemn you forever
Until the law serves the people

ไม้หนึ่ง ก. กุนที - เขียน
มะม่วงหนุ่ม - แปล

แปลออกมาลุ่นๆ และตรงตามคำไปหน่อย
ใครมีฝีมือ ช่วยมาเกลา มาทำให้สัมผัส ทรงพลัง
และให้ใกล้เคียงกับต้นฉบับของ ไม้หนึ่ง ในภาษาไทยด้วย ขอบคุณค่ะ

ป.ล. มะม่วงหนุ่ม = มะม่วง + หนุ่ม (ที่ช่วยกันแปล) ค่ะ

คัดลอกบทความจาก เว็บบอร์ด ชุมชนฟ้าเดียวกัน

คุกไม่อาจกักขังกวี

นอกกฎหมาย

๏ คุกไม่อาจกักขังกวี
และจะไม่ขอความปรานีศาล
ตุลาการเมื่อรับใช้เผด็จการ
ถึงเวลาสร้างศาลประชาชน


คุณให้ท้ายกลุ่มลัทธิคลั่งอำนาจ
สิทธิ์เสรีประชาชาติถูกชิงปล้น
เสาะแสวงทุกวิธีให้จำนน
ไม่ยอมรับ 1 เสียงของพลเมือง


รุมปลูกฝังตรรกะวิปริต
ชุดความคิดมอมเมาให้คนเชื่อง
ติดคุณธรรมความดีที่เปล่าเปลือง
เพราะเบื้องหลังอำพรางอาชญากรรม


คุณฆ่ากลุ่มความคิดที่ก้าวหน้า
คนชั้นล่างที่ต้นทุนสังคมต่ำ
อ่อนจริตมารยาทแต่งชี้นำ
จองจำเขาในความจน อด เจ็บ ตาย


คุกไม่อาจกักขังกวี
และล้านล้านเสรีชนทั้งหลาย
จะกู่ก้องก่นประณามคุณเรื่อยไป
กว่ากฎหมายจะรับใช้มหาชน.


ไม้หนึ่ง ก. กุนที