วันพุธที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2552

โศลกเศร้าแห่งความรัก (Trist cântec de dragoste) โดย นิกิต้า สเตอเนสคู

ขับกล่อมหัวใจด้วยบทกวี #1
siminiciuc


...เพราะความฝัน ความรัก และศรัทธา คือแสงสว่างที่ชี้นำทางให้ชีวิตคนเราได้พบเจอจุดมุ่งหมาย มุมเล็กๆแห่งนี้จึงเกิดขึ้นเพื่อรวบรวมบทกวี ไว้เติมเต็มความฝัน ความรัก และศรัทธาให้กับหัวใจ...
ตอน : โศลกเศร้าแห่งความรัก (Trist cântec de dragoste) โดย นิกิต้า สเตอเนสคู

เพราะความฝัน ความรัก และศรัทธา คือแสงสว่างที่ชี้นำทางให้ชีวิตคนเราได้พบเจอจุดมุ่งหมาย มุมเล็กๆแห่งนี้จึงเกิดขึ้นเพื่อรวบรวมบทกวี (ที่ผู้เขียนชื่นชอบ) ไว้เติมเต็มความฝัน ความรัก และศรัทธาให้กับหัวใจ บทกวีที่นำมาลงนั้น ผู้เขียนเองต้องยอมรับว่าไม่สันทัดในการแปล บางครั้งเข้าใจความหมายตามตัวอักษร แต่กลับไม่เข้าใจสัญลักษณ์และปริศนา ที่ผู้แต่งทิ้งร่องรอยเอาไว้ จึงเลือกที่จะรักษาสาระไว้เป็นลำดับแรก ส่วนความงามและสุนทรียภาพถือเป็นเรื่องรองลงไป ขอให้ทุกท่านที่แวะเวียนเข้ามา มีความสุขกับการอ่าน และสุขภาพใจที่แข็งแรง

All truth is discovered by thinking and writing. In thinking we see the shadow of truth. In writing we touch the body of truth.
(อ.มนตรี อุมะวัชนี)




Trist cântec de dragoste

Numai viaţa mea va muri pentru mine-ntr-adevăr,
cândva.
Numai iarba ştie gustul pământului.
Numai sângelui meu îi e dor, într-adevăr,
de inima mea, când o părăseşte.
Aerul e-nalt, tu eşti înaltă,
tristeţea mea e înaltă.
Vine o vreme când mor caii.
Vine o vreme când se-nvechesc maşinile.
Vine o vreme când plouă rece
şi toate femeile poartă capul tău
şi rochiile tale.
Vine şi o pasăre mare, albă,
care ouă pe cer luna.


โศลกเศร้าแห่งความรัก
โดย นิกิต้า สเตอเนสคู

มีเพียงชีวิตของฉันเท่านั้น ที่จะตายเพื่อตัวฉัน ในความเป็นจริง
ไม่วันใดก็วันหนึ่ง
มีเพียงต้นหญ้าเท่านั้นที่รู้รสของผืนดิน
มีเพียงโลหิตของฉันเอง ที่ถวิล-
หาหัวใจของฉันในวันที่มันลับหาย
ท้องฟ้าแสนกว้างไกล คุณช่างแสนกว้างไกล
ความเศร้าของฉันก็แสนกว้างไกล
วันหนึ่งอาชาที่วิ่งมาหมื่นลี้จะสิ้นใจ
วันหนึ่งเครื่องยนต์ย่อมเสื่อมไป ไร้สิ้นสมรรถภาพ
วันหนึ่งหยาดฝนเยียบเย็นจะโรยรินจากเวิ้งฟ้า
และหญิงสาวทุกคน จะไขว่คว้า
เอาหมวกและเสื้อผ้า ของคุณไปสวมใส่
วันหนึ่งนกใหญ่สีขาวตัวนั้นจะมาเยือน
ตัวที่วางไข่ไว้เป็นดวงเดือนเหนือเวหานั่น

(แปล 1 สิงหาคม 2552)

บทกวีชิ้นนี้ เป็นหนึ่งในผลงานรวมบทกวีชุด Dreptul la timp (ตรงต่อเวลา) ซึ่งได้รับการตีพิมพ์ในปี 1965 เนื่องจากผู้แต่งได้เขียนบทกวีดีๆ ไว้จำนวนมาก จึงจะทยอยนำมาเผยแพร่ สลับกับบทกวีของท่านอื่นๆ ในโอกาสต่อไป



“...กวีไม่มีชีวประวัติส่วนตัว ประวัติส่วนตัวของพวกเขาแท้ที่จริงถูกรังสรรค์ขึ้นจากบทกวี ที่พวกเขาแต่งขึ้นเอง ว่าดีกว่าหรือแย่กว่า สูงส่งหรือต่ำต้อย...”



นิกิต้า สเตอเนสคู (Nichita Stănescu 1933 - 1983) เกิดที่เมืองปลอยเยชต์ (Ploieşti) ห่างจากเมืองบูคูเรสต์ไปทางทิศเหนือประมาณ 60 กิโลเมตร สำเร็จการศึกษาจากคณะภาษาศาสตร์ แห่งมหาวิทยาลัยบูคูเรสต์ ได้รับการยกย่องให้เป็นกวีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุคเปลี่ยนผ่านของโรมาเนีย (1960-1970) จนถึงยุคปัจจุบัน ทำงานในแวดวงสื่อในฐานะบรรณาธิการให้กับวารสารหลายฉบับ ผลิตงานกวีในเชิงปรัชญาชีวิต และความรักออกมามากมาย และผ่านเข้ารอบสุดท้ายในการพิจารณารางวัลโนเบล สาขาวรรณกรรม ประจำปี 1980 ซึ่ง Czesław Miłosz กวีเชื้อสายโปลิชเป็นผู้คว้ารางวัลนี้ไปครอง นิกิต้า สเตอเนสคูเป็นหนึ่งในกวีไม่กี่คน ที่ยืนหยัดผ่านคลื่นมรสุมจากรัฐบาลคอมมูนิสต์มาได้ โดยไม่ต้องอพยพออกนอกประเทศ

ผลงานชุดที่สร้างชื่อเสียงและอยู่ในความทรงจำของชาวโรมาเนียน เช่น Sensul iubirii (ความหมายแห่งรัก) O viziune a sentimentelor (มโนภาพของความรู้สึก) Necuvintele (ปราศจากถ้อยคำ) ฯลฯ

นิกิต้า สเตอเนสคูจากโลกนี้ไปในวัย 50 ปีด้วยโรคตับอักเสบ


คัดลอกจาก นิตยสารรายสะดวก Memorandum ๐๔ สิงหาคม ๒๕๕๒

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น